ขอนำเสนอสูตร และขั้นตอนการทำ Water Drop BB Cream นะคะ
โดยปกติแล้ว BB Cream จะเกิดจากการเอาเนื้อครีมทั่วๆไปนี่แหละคะ ผสมกับ BB Micro Silk เท่านั้นเองคะ ซึ่งถือว่าง่ายมาก
แต่ระยะหลังๆ มีหลายๆแบรนด์ จากเกาหลี นำเสนอ "Water Drop Cream" หรือครีมหยดน้ำ เวลาทาแล้วจะเหมือนมีน้ำอยู่ในเนื้อครีม หลายๆคนชอบมากเพราะรู้สึกว่าเวลาทาแล้วเย็นสดชื่นผิวเพราะมีน้ำเย็นๆกระจายตัวลงบนผิวนั่นเอง
ขั้นตอนการทำ Water Drop BB Cream ก็เพียงแค่ทำ Water Drop Cream แล้วตามด้วย ทำ BB และแต่งสีตามต้องการคะ
ส่วนผสม
Water 60%
Cyclomethicone 10% ให้ครีมนุ่มลื่น และกระจายตัวง่าย
Silicone Gel Base (Ultra Clear) 10% เพิ่มความหนืดให้เนื้อครีม
LipidSoft 4% ช่วยให้เนื้อครีมกระจายตัวง่าย ลื่น น่าใช้
Warp Cream Maker 5% สร้างเนื้อครีม
BB Micro Silk และ สีต่างๆ ประมาณ 10% ที่เหลือ
Phenoxyethanol 1%
ส่วนผสมด้านบนนี้ สามารถปรับแต่งได้ ตามจุดประสงค์ของส่วนผสมแต่ละตัวที่เขียนอธิบายไว้นะคะ เช่นถ้าต้องการให้เนื้อหนืดขึ้น ก็ให้เพิ่มสัดส่วนของ Silicone Gel Base (Ultra Clear)
ขั้นตอน
1. นำ Cyclomethicone ผสมเข้ากัน Silicone Gel Base (Ultra Clear)
2. เติม LipidSoft และ Warp Cream Maker จากนั้นตั้งบนความร้อน 70-80%
3. คนให้เข้ากัน โดย Warp Cream Maker อาจจะกระจายตัวยากหน่อย ใช้เวลานิดหน่อย และใช้ความร้อนต่อเนื่อง
4. อาจยังไม่ต้องรอให้ Warp Cream Maker สมบูรณ์ แต่ให้กระจายตัวมากเท่าที่กระจายตัวได้ แล้วเติมส่วนของน้ำลงไป
คนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนได้เนื้อครีมหยดน้ำแบบนี้คะ
- เนื้อครีม water drop หรือครีมหยดน้ำ
- water drop cream base.jpg (65.95 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
เวลาทาบนผิว จะเหมือนมีน้ำกระจายบนผิวไปด้วย บางที่เรียก ครีมน้ำแตก
- ทาบนผิว1
- ครีมหยดน้ำ บนผิว1.jpg (26.34 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
- ทาบนผิว2
- ครีมหยดน้ำ บนผิว2.jpg (54.52 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
จากนั้นเติมผง yellow iron oxides EasyMix™ เพื่อแต่งให้สีผิวตรงกับผิวหน้าของเรา
- เติม yellow iron oxides EasyMix
- water drop cream + yellow iron oxides EasyMix™.jpg (200.88 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
หลังจากเติมผงแล้วก็คนให้เข้ากัน
- คนให้เข้ากัน จะได้สีเหลือง
- water drop cream + yellow iron oxides EasyMix™ after.jpg (202.04 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
ปรับสีให้ดีขึ้นมาหน่อย จะได้ใกล้เคียงกับสีผิวหน้า ด้วย red iron oxides EasyMix™ และ black iron oxides EasyMix™
- เติม red iron oxides EasyMix
- water drop cream +red iron oxides EasyMix™.jpg (322.05 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
- เติม black iron oxides EasyMix
- water drop cream +black iron oxides EasyMix™.jpg (417.51 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
สุดท้ายเติมกันแดดไปด้วยเลย โดยเติมทั้ง Titanium Dioxide Nano EasyDisperse™ และ Zinc Oxide Nano EasyDisperse™
- เติมกันแดด
- water drop cream + titanium dioxide nano EasyDisperse.jpg (445.04 KiB) เปิดดู 13264 ครั้ง
การเติม Titanium Dioxide จะทำให้เนื้อครีมสีอ่อนลง อาจต้องปรับสีเพิ่มเติมด้วยคะ [ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเราคะ แค่ปรับให้ได้สีตรงกับที่เราต้องการก็พอ]
ท้ายสุด ห้ามลืมเลยคะ ต้องมี BB Micro Silk พระเอกของเรา ในการทำให้เนื้อเป็น BB ช่วยพรางแสง ไม่ให้เห็นริ้วรอย ให้ผิวเราดูเรียบเนียบ และเป็นธรรมชาติ แต่ถ้ารู้สึกว่า BB Micro Silk ยังปกปิดไม่พอ ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ Silk Mica Powder ชนิดด้าน (Matte) เข้าไปด้วย ตัวนี้จะทำให้เนื้อครีมข้นขึ้น และหนาขึ้น เวลาทาลงบนผิวก็จะเหมือนเนื้อแป้งมากขึ้น สามารถปกปิดได้แบบทึบเลยถ้าใส่มากหน่อย แต่ข้อเสียคือไม่ดูเป็นธรรมชาติคะ คราวนี้ ไม่ว่าริ้วรอยหรือรอยด่างดำขนาดไหน ปิดหมดแน่นอนคะ
เปรียบเทียบระหว่าง BB Micro Silk และ Silk Mica Powder
โดยปกติแล้ว หาก BB Cream ราคาถูก จะใส่ Mica Powder เยอะๆ แต่ไม่ใช้ BB Micro Silk เนื่องจากราคาสูง เพื่อไปช่วยปกปิด ข้อเสียของการใช้ Mica Powder เยอะๆคือ ดูไม่เป็นธรรมชาติ คือปกปิดเหมือนทาแป้งบนผิวเลย แต่หากผสมในสัดส่วนที่กำลังดีกันทั้งสองตัว การปกปิดจะเป็นธรรมชาติที่สุดคะ ทั้งนี้ แต่ละคนชอบลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป วิธีการผสมในส่วนนี้คือค่อยๆเติมส่วนผสมแต่ละตัวเข้าไป แล้วทดสอบเนื้อดู ว่าปกปิดเพียงพอกับที่เราต้องการหรือยังคะ
ขอบคุณคะ
R&D - MySkinRecipes