ถามคำถามที่นี่ - น้ำหอม

Flora Fix กับ Last Fix ใช้ร่วมกันในสูตรเปรย์น้ำหอมฉีดพ่นกายได้มั้ยคับ
ช่วยทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้นมั้ยหรือว่าทำงานซ้ำซ้อนกันให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

สวัสดีคะ

Last Fix สามารถทำให้ติดทนได้มากกว่า Flora Fix คะ

แต่การใช้ Flora Fix ร่วมกับ Last Fix จะได้ผลไม่มากไปกว่าการใช้ Last Fix อย่างเดียวคะ

ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ร่วมกันคะ

หากท่านสมาชิกใช้ Last Fix แล้วยังพบว่ามีปัญหา กลิ่นยังไม่มีอายุยาวนานเท่าที่พอใจ รบกวนท่านสมาชิกแจ้งองค์ประกอบโดยละเอียด [รวมถึงกลิ่นน้ำหอมที่ใช้] เพื่อให้ทีมงานได้สามารถแนะนำการปรับแต่งที่ถูกต้องให้ได้คะ

หัวน้ำหอมและแบบที่ผสมกับแอลกอฮอล์แล้วจำเป็น
ต้องแช่ตู้เย็นมั้ยคับเพื่อรักษาคุณภาพกลิ่นมั้ยคับ

สวัสดีคะ

การเก็บรักษาหัวน้ำหอม หรือสูตรใดๆที่มีหัวน้ำหอมเป็นองค์ประกอบ ที่ดีที่สุดอุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วง 10-20องศา โดยหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบ่อยๆ เก็บมิดชิดจากแสงใดๆ รวมถึงไม่ให้สัมผัสกับอากาศคะ

คำแนะนำการจัดเก็บนี้ เป็น ลักษณะการจัดเก็บที่ดีที่สุด แต่ในทางปฎิบัติ เลือกทำเท่าที่สะดวกและเป็นไปได้คะ

ลองผสมน้ำหอมแล้วพบว่ายากกว่าผสมสกินแคร์เยอะเพราะไม่รู้ว่าเคมีใน
น้ำหอมแต่ละกลิ่นทำปฏิกิริยาแล้วออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เลยมีคำถามคับ

ส่วนผสมหัวน้ำหอม

Top notes
- bergamot Fragrance oil 15%
- cool summer citrus 10%
- Tea Tree Oil 5%
Middle notes
- fresh melon 30%
- jasmine petal 20%
Base notes
- Coumarin 20%

เอาหัวน้ำหอมทั้งหมดผสมกันแล้วผสมลงในเบสแอลกอฮอล์ที่ผสมกับ Last Fix แล้ว อัตราส่วน
แอลกอฮอล์ 60% หัวน้ำหอม 30% Last Fix 10%


1. น้ำหอมที่สเปรย์ออกมาโดนผิวแล้วรู้สึกผ่าวๆ มีรอยแดงบริเวณผิวประมาณ 15-20 นาที
เป็นเพราะแอลกอฮอล์แรงไปป่าวคับ

2. กลิ่นที่ตั้งใจให้เป็น middle notes อย่าง fresh melon เลยผสมเยอะสุดแต่กลิ่นไม่ออกเลย
โดยที่กลิ่น Tea Tree Oil ทั้งที่ใส่นิดเดียวแต่กลบกลิ่นอื่นหมด ผมต้องศึกษาเคมีในน้ำหอมมั้ยคับ
ถ้ามีคอร์สให้เรียน เรียนที่ไหนได้บ้าง

3. น้ำหอมที่ผสมแล้วกลิ่นไม่เกิน 3 ชั่วโมงคับ พอชั่วโมงที่ 2 เหลือแค่กลิ่น Coumarin อยากถามว่า
หมวดส่วนประกอบน้ำหอมที่เป็นผงกลิ่นทนกว่าหมวดอื่นป่าวคับ

สวัสดีคะ

1. น้ำหอมที่สเปรย์ออกมาโดนผิวแล้วรู้สึกผ่าวๆ มีรอยแดงบริเวณผิวประมาณ 15-20 นาที
เป็นเพราะแอลกอฮอล์แรงไปป่าวคับ

โดยปกติท่านสมาชิกแพ้ alcohol หรือเปล่าคะ หากไม่เคยมีอาการดังกล่าวมาก่อน เมื่อใช้น้ำหอมฉีดพ่นกายทั่วๆไป [ซึ่งก็มี alcohol ในปริมาณเท่าๆกับสูตรของท่านสมาชิก] ทีมงานคิดว่า เกิดจาก Tea Tree Oil คะ อัตราการใช้ Tea Tree Oil 5% ในหัวน้ำหอม หรือเท่ากับ 1.5% ในสูตรน้ำหอมที่ท่านสมาชิกทำเจือจางเป็นสเปรย์ เป็นระดับที่ค่อนข้างสูง และอาจระคายเคืองผิวได้คะ

2. กลิ่นที่ตั้งใจให้เป็น middle notes อย่าง fresh melon เลยผสมเยอะสุดแต่กลิ่นไม่ออกเลย
โดยที่กลิ่น Tea Tree Oil ทั้งที่ใส่นิดเดียวแต่กลบกลิ่นอื่นหมด ผมต้องศึกษาเคมีในน้ำหอมมั้ยคับ
ถ้ามีคอร์สให้เรียน เรียนที่ไหนได้บ้าง

กลิ่นแต่ละชนิดมีความแรงแตกต่างกันคะ การผสมน้ำหอมใช้เวลาและความพยายามคะ ไม่ว่าจะเป็นนักผสมที่มีประสบการณ์สูง มีความรู้เฉพาะทางด้านนี้ หรือผู้ผสมใหม่ ก็จำเป็นจะต้องทำการดมทดสอบเสมอ ผู้มีประสบการณ์สูง อาจจะทำได้เร็วขึ้น เนื่องจากอาจจะจำได้ว่า กลิ่นใดที่ความแรงของกลิ่นสูง แต่ก็ยังต้องมีการดมทดสอบ และปรับเปลี่ยนอัตราส่วนเรื่อยๆ ไม่ต่างจากมือใหม่ที่ทำการผสมคะ

หากสนใจศึกษาการผสมน้ำหอม ทีมงานเรียนแนะนำ ลองติดต่อที่ บริษัท perfumersworld คะ (วิภาวดี-รังสิต)

3. น้ำหอมที่ผสมแล้วกลิ่นไม่เกิน 3 ชั่วโมงคับ พอชั่วโมงที่ 2 เหลือแค่กลิ่น Coumarin อยากถามว่า
หมวดส่วนประกอบน้ำหอมที่เป็นผงกลิ่นทนกว่าหมวดอื่นป่าวคับ

ผงระเหยได้ช้ากว่าของเหลวคะ อัตราการระเหยที่ต่ำกว่า กลิ่นจึงอ่อนกว่า แต่อยู่ได้ยาวนานกว่าคะ

Tea Tree Oil ที่บริษัทขายมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อหรือป่าวคับ คือจะเอามาผสมทำเจลแต้มแผลรูเจาะหูคับ ถ้าใช้ได้ควรใช้ความเข้มข้นเท่าไรดี

สวัสดีคะ

Tea Tree Oil มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค (antiseptic) จริงคะ

แต่ฤทธิ์ดังกล่าว มาพร้อมกับ การระคายเคืองผิว คะ

แม้ว่ามีแบรนด์เครื่องสำอางหลากหลาย นำ Tea Tree Oil ไปใช้ในสูตร เพื่อให้ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เช่นในสบู่อาบน้ำ แต่สูตรดังกล่าวมีการใช้ Tea Tree Oil ในระดับต่ำมาก

ผลที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในระดับต่ำมาก (เพื่อไม่ให้ระคายเคืองผิว) คือ ประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคลดต่ำลง และไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ทุกประเภท

ในกรณีของท่านสมาชิกเอง ไม่ว่ากรณีความเข้มข้นต่ำ หรือสูง ทีมงานไม่แนะนำอย่างยิ่ง สาเหตุเนื่องจาก การระคายเคืองผิวที่เกิดขึ้น จะรุนแรงมากยิ่งขึ้นอีก เมื่อเกิดขึ้นบนแผลสด หรือแผลที่กำลังสมานคะ