สวัสดีคะ
Mineral Makeup เป็นเครื่องสำอางแต่งหน้าอย่างนึง ที่มีประโยชน์มาก และผสมได้ง่ายมากเช่นกันคะ
แนะนำวิธีการผสมแป้ง Mineral Makeup ในสีต่างๆแบบที่เราอยากได้กันนะคะ
ขออนุญาติอธิบา่ยโครงสร้างส่วนผสมก่อน
Mineral Makeup จะประกอบไปด้วย
เนื้อเบสแป้ง ซึ่งเป็นผง Mica ที่ไม่มีสี [หรือสีขาวนั่นเอง] แต่เนื้อแตกต่างกันไป และให้ความหนาแน่นของเนื้อแป้งบนผิวที่แตกต่างกันไป ให้การปกปิดผิวที่แตกต่างกันไป แบ่งได้หลักๆเป็น 3ตัวคะ
-Silk Mica Powder ชนิดด้าน (Matte)
-Silk Sericite Powder ชนิดด้าน (Matte)
-Mica Powder ชนิดเงา (Shimmer)
ความแตกต่างของแต่ละตัวดังนี้คะ
Mica กับ Sericite แตกต่างกันตรงที่ แท้จริงแล้ว Sericite ก็ทำมาจาก Mica เพียงแต่เป็นอนุภาค Mica ขนาดที่เล็กมากๆ เมื่ออนุภาคเล็กลงเรื่อยๆ การสะท้อนแสงก็จะลดลงเรื่อยๆ นั่นแปลว่า การปกปิดผิวก็จะต่ำลงเรื่องๆ [พอแสงสะท้อนไม่ได้ เราก็จะมองไม่เห็น] แปลว่า Sericite นั่น เหมาะกับการใช้เป็น filler ในเนื้อแป้ง นั่นเองคะ คือสร้างเนื้อแป้ง ที่ไม่กระทบต่อ สีหรือการปกปิดของแป้ง เรียกว่าเป็นแป้งที่เรามองไม่เห็น แล้วกันคะ
Mica เอง เมื่อมีอนุภาคที่ใหญ่กว่า แปลว่า เมื่ออยู่บนผิวเรา เราจะมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน เราสามารถใช้ในการปกปิดผิวได้ดี เช่นการปกปิดริ้วรอย หรือจุดด่างดำต่างๆ โดยมีทั้งชนิดสีด้าน และสีเงา
การผสมแป้ง mineral makeup เราจำเป็นต้องผสมผงหลายๆชนิดเข้าด้วยกัน เนื่องจาก หากเราใช้เพียง Silk Mica Powder ชนิดด้านอย่างเดียว เมื่อทา หน้าเราก็อาจจะขาวถึงขนาดวอกขึ้นมาได้ เพราะเนื้อ Mica เห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่บนผิว ในขณะที่ ถ้าเราเลือกใช้ Silk Sericite อย่างเดียว ก็เหมือนเราทาแต่ไม่ได้ทา ความสามารถในการปกปิดจะต่ำเกินไป นอกจากนี้ การใช้ Mica ชนิดเงา ก็ช่วยเพิ่มเติมสีสันให้กับแป้งของเราได้คะ แต่ถ้าใช้มากไปก็จะกลายเป็นประกายไปทั้งหน้า
Texture Enhancer หรือส่วนผสมที่ช่วยปรับเนื้อแป้ง ตัวอย่างเช่น
-Magnesium Stearate ช่วยให้เนื้อแป้งสามารถติดผิวได้ดียิ่งขึ้น
-Kaolin ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า เหมาะสำหรับหน้ามัน
-Bismuth Oxychloride ช่วยเพิ่มความเงางามและนุ่มลื่น ให้แก่ผิว [ตัวนี้ ให้ความเงางามสวยมากๆคะ แนวดาราออกงานชอบใช้กัน แต่ข้อเสียคือ บางคนแพ้ได้]
-AminoSilk ช่วยเพิ่มความนุ่มลื่นให้กับเนื้อแป้งคะ นิยมใส่ในแป้งราคาแพงแบรนเนมต่างๆ เพราะส่วนผสมตัวนี้มีราคาสูงคะ
สีต่างๆ ที่ใช้ในการให้สีสันบนใบหน้า รวมถึงประกาย หรือ shimmer สีเงาต่างๆ
-Iron Oxides สีต่างๆ โดยปกติแล้ว จะใช้ประมาณ 10-20% ปรับจนได้สีที่ต้องการ
-ผง Mica Shimmer สีต่างๆ
เราไม่ใช้สีในกลุ่ม Lake คะ เนื่องจากมีความเข้มของสีมากเกินไป ไม่เหมาะกับการใช้ในแป้ง Makeup ซึ่งเราต้องการเฉดสีที่อ่อนโยนให้เข้ากับหน้าได้ ไม่ได้เน้นการ highlight ใดๆ เหมือนในลิปสติก ที่ต้องการเน้นสีให้จัด
กันแดด ตรงนี้ เพื่อเพิ่มเติมในสูตร เพื่อช่วยให้ Mineral Makeup ของเรา สามารถกันแดดไปในตัวด้วย ซึ่งได้ประโยชน์ดีมากๆ โดยหากต้องการกันแดดได้ทั้ง UVA/UVB ควรใช้ทั้ง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ร่วมกัน
-Titanium Dioxide Nano EasyDisperse™ นอกจากช่วยกันแดดแล้วยังช่วยปรับเฉดสี เนื่องจากตัวเองมีลักษณะเป็นสีขาว จะทำให้สีโดยรวมของแป้งอ่อนลงได้ เหมาะสำหรับสีนวลๆ (ด้วยการทำให้สีเข้มก่อนด้วย iron oxides สีต่างๆ แล้วค่อยปรับโทนลงมาด้วย Titanium Dioxide)
-Zinc Oxide Nano EasyDisperse™ เพิ่มประสิทธิภาพการกันแดดให้ครบช่วงความยาวคลื่นของทั้ง UVA/UVB
โครงสร้างของส่วนผสมคะ
-เบส ซึ่งเป็นผง Mica + Sericite ประมาณ 65-90%
-Texture Enhancer ประมาณ 5-15%
-สีต่างๆ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีที่ต้องการเลยคะ
ส่วน Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ไม่ควรใช้เกิน 25% คะ
วิธีการผสมคะ
การทำให้ผงชนิดต่างๆ ทั้งผงสี ผง Mica ฯลฯ เข้ากันได้ดี จะแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆที่เป็นของเหลว ซึ่งสามารถคนหรือปั่นได้ ก็จะเข้ากันได้ง่าย การทำให้ผงเข้ากันได้ ง่ายที่สุดคือการใช้ครกเล็กๆ หรือใช้อุปกรณ์ใดๆพยายามกดและบด ให้เข้ากันคะ [อาจจะหาถ้วยเล็กๆ มาใส่ผงรวมกัน แล้วเอาช้อนกดๆไปเรื่อยๆก็ได้คะ พยายามกดให้เนื้อผงต่างๆเข้ากัน สีก็จะผสมกันคะ]
ตัวอย่างสูตรคะ
Silk Mica Powder ชนิดด้าน (Matte) 30%
Silk Sericite Powder ชนิดด้าน (Matte) 35%
Allantoin 0.3% [ช่วยลดการระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว บำรุงผิวไปในตัวตอนทาแป้ง]
Titanium Dioxide Micronized 5%
Zinc Oxide Micronized 5%
Bismuth Oxychloride 3%
Magnesium Stearate 10%
การแต่งสี:
Iron Oxide สีต่างๆ รวมกัน 11.7%
หรือในกรณีที่ใช้ทาเป็น highlight ก็สามารถเพิ่ม Mica Shimmer ลงไปได้คะ
เรื่องสารกันเสีย: หากเราไม่แน่ใจว่าจะสามารถเก็บแป้งไว้ในสถานที่ที่สะอาด และไม่ปล่อยให้มีเชื้อโรคเข้าไป ตอนที่เราเปิดมาใช้ [เช่นการเอานิ้วจุ่มลงไปแล้วเอามาทาหน้า แทนที่จะใช้แปรงสะอาด] ก็สามารถเติมสารกันเสียเช่น Phenoxyethanol 1% ได้คะ
เมื่อตำไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าสีเข้ากันแล้ว ก็ใช้ได้เลยคะ ง่ายมาก!!!!
ส่วนที่จะยากเล็กน้อยในครั้งแรก [เพียงแค่ครั้งแรกจริงๆคะ] คือการพยายามผสมสี และ match สีให้เข้ากับใบหน้า ให้ได้โทนที่เราต้องการ ผสมไป แต่งไป เรื่อยๆ รับรองว่าได้เฉดสีที่เราควบคุมได้ทั้งหมดคะ เพราะอยากได้เฉดไหนก็เติม Iron Oxides สีต่างๆ ลงไปได้เลยคะ
อย่าลืมว่าเรื่องการบรรจุก็เป็นเรื่องสำคัญคะ หากภาชนะไม่สะอาดแล้วก็อาจทำให้เกิดเชื้อโรคก่อตัวในเนื้อแป้งได้ แต่หากสะอาด ก็ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะถ้าในเนื้อแป้งไม่มีความชื้นเข้าไป เชื้อโรคก็จะเกิดได้ยาก
ตัวอย่างตลับแป้ง
ขอบคุณคะ
R&D - MySkinRecipes