Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
  • Product Code: 133

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid อนุภาพเล็ก (Ultra-Fine) ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน ความบริสุทธิ์สูง ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวิตามินซีประเภทอื่น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านอนุมูลอิสระ

฿172.61 ราคาพิเศษนี้สำหรับสั่งหน้าเวปเท่านั้น
กรัม (เริ่มต้นขั้นต่ำ 0 กรัม)

อัตรา ราคาต่อหน่วยจะถูกลง เมื่อสั่งซื้อปริมาณที่สูงขึ้น

กรุณากรอกปริมาณที่ต้องการ ระบบจะแสดงราคาโดยอัตโนมัติ

  •  
ชิ้น, ค่าบรรจุ: 0/ชิ้น

สินค้าจะถูกบรรจุตามปริมาณที่สั่งซื้อ

  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
Test Name Specification
Description White to yellowish crystals or crystalline powder
Assay 99.0-100.5%
Particle Size Minimum 95% to pass Mesh 325
Identification Positive reaction
Specific Rotation (+)20.5 degree-(+)21.5 degree
Melting Point 190-192 degree Celcius
Residue On Ignition Not more than 0.1%
Heavy Metal Not more than 10 ppm
Iron Not more than 2 ppm
Arsenic Not more than 3 ppm
LOD Not more than 0.05%
Total Plate Count Not more than 1000 cfu/g
Yeasts & Molds Not more than 100 cfu/g
Escherichia Coli Absence in 1 g

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid อนุภาพเล็ก (Ultra-Fine) ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน ความบริสุทธิ์สูง ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวิตามินซีประเภทอื่น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยตื้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

 

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid ไม่ควรผสมกับน้ำโดยตรง เนื่องจากจะเกิดการ oxidation และทำให้เสียสภาพ

 

Ultra Fine เป็นผงขนาดไม่เกิน 45microns ผ่านการตัดด้วย laser ทำให้สามารถกระจายตัวได้ง่าย เหมาะกับใช้ในสูตรที่ไม่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย (Anhydrous) เช่น Vitamin C Silcone Serum ในสูตรของ Kiehl's  เนื่องจากจะสามารถกระจายตัวได้ง่ายกว่า Ascorbic Acid ชนิดปกติ

 

Vitamin C เกรดนี้ ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ The Ordinary 100% L-Ascorbic Acid Powder

 

ความแตกต่างระหว่าง Vitamin C (L-Ascorbic Acid) แต่ละชนิด

1. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard) มีขนาดผงปกติ (ขนาดเล็กกว่าน้ำตาล แต่ใหญ่กว่าเกลือ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นความประหยัด

2. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) มีขนาดผงเล็ก (Fine) โดยขนาดเฉลี่ยอยู่ในช่วง 200-300ไมครอน

3. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) มีขนาดผงเล็กพิเศษ (Ultra-Fine) โดยขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน เป็นขนาดเล็กที่สุด

 

Vitamin C ชนิด Ascorbic Acid เกรดใดๆ จะไม่มีความเสถียร เมื่อละลายอยู่ในน้ำ แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Vitamin C ในรูปอื่นๆ

 

ความแตกต่างของ Vitamin C แต่ละชนิด ที่บริษัทจำหน่าย:

1. Ethyl Ascorbic Acid: วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)

2. Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): วิตามินซี ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรปานกลาง มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

3. Ascorbyl Glucoside (AA2G™, Stable Vitamin C): วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรปานกลาง มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน (ต้องปรับค่า pH ให้เหมาะสม) มีประสิทธิภาพสูงในด้านความกระจ่างใส (whitening) และริ้วรอย (anti-oxidant)

4. Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine , Vitamin C (L-ascorbic acid) Fine : วิตามินซี ละลายในน้ำ สามารถละลายน้ำได้เร็วมากและกระจายตัวได้ดีมาก มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

5. Vitamin C (L-ascorbic acid): วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

6. Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum : วิตามินซี เบสสำเร็จรูป มีความเสถียรสูง แต่ไม่สามารถปรับแต่งหรือเติมส่วนผสมอื่นๆได้ เนื่องจากจะกระทบกับความเสถียรของเบส มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

7. Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) : วิตามินซี ละลายน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)

8. Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) : วิตามินซี ละลายน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening) มีลักษณะคล้ายกับ MAP

9. Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) : วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เหมาะสำหรับใช้ทำหน้าที่เป็น anti-oxidant ในสูตรน้ำมัน มีประสิทธิภาพด้านอื่นๆน้อย เมื่อเทียบกับ Vitamin C รูปแบบอื่นๆ

 

แนะนำใช้ Protec™ OX และ Protec™ UV ในสูตร เพื่อช่วยปกป้อง Vitamin C จากการเสื่อมคุณภาพ

 

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย หรือ whitening ให้ผิวขาว  อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม

วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 30°C และ pH อยู่ระหว่าง 2.0-4.0 (อ.ย. กำหนดให้เครื่องสำอางทาผิวต้องมี pH อย่างต่ำ 3.5)

อัตราการใช้: 3-15% (3% สำหรับลดริ้วรอยทั่วไป, 15% สำหรับ whitening ให้ผิวขาวใส)

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาวบริสุทธิ์

การละลาย: สามารถละลายในน้ำในทันทีเนื่องจากเป็นผง Ultra Fine ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 6-8องศา ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างน้อย 2ปี

 

INCI Name: L-Ascorbic Acid (Grade: Ultra-Fine)

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ L-Ascorbic Acid เกรด Ultra-Fine

The Ordinary 100% L-Ascorbic Acid Powder




Be the first to review this product :-)

Please login to write a review.

กระทู้สนทนาล่าสุด:


ตัวอย่างสูตรที่ใช้ส่วนผสมนี้:





Recommend Lab-Service
บริการแลป ราคา
UV-VIS Ascorbic Acid Content Measurement

Analysis of Ascorbic Acid Content in finished product to determine its actual content		 ฿ 2,490.00
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid อนุภาพเล็ก (Ultra-Fine) ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน ความบริสุทธิ์สูง ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวิตามินซีประเภทอื่น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ต้านอนุมูลอิสระ

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid อนุภาพเล็ก (Ultra-Fine) ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน ความบริสุทธิ์สูง ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวิตามินซีประเภทอื่น ทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยตื้น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

 

Vitamin C ชนิด L-ascorbic acid ไม่ควรผสมกับน้ำโดยตรง เนื่องจากจะเกิดการ oxidation และทำให้เสียสภาพ

 

Ultra Fine เป็นผงขนาดไม่เกิน 45microns ผ่านการตัดด้วย laser ทำให้สามารถกระจายตัวได้ง่าย เหมาะกับใช้ในสูตรที่ไม่มีน้ำเป็นตัวทำละลาย (Anhydrous) เช่น Vitamin C Silcone Serum ในสูตรของ Kiehl's  เนื่องจากจะสามารถกระจายตัวได้ง่ายกว่า Ascorbic Acid ชนิดปกติ

 

Vitamin C เกรดนี้ ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ The Ordinary 100% L-Ascorbic Acid Powder

 

ความแตกต่างระหว่าง Vitamin C (L-Ascorbic Acid) แต่ละชนิด

1. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard) มีขนาดผงปกติ (ขนาดเล็กกว่าน้ำตาล แต่ใหญ่กว่าเกลือ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นความประหยัด

2. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) มีขนาดผงเล็ก (Fine) โดยขนาดเฉลี่ยอยู่ในช่วง 200-300ไมครอน

3. Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) มีขนาดผงเล็กพิเศษ (Ultra-Fine) โดยขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน เป็นขนาดเล็กที่สุด

 

Vitamin C ชนิด Ascorbic Acid เกรดใดๆ จะไม่มีความเสถียร เมื่อละลายอยู่ในน้ำ แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Vitamin C ในรูปอื่นๆ

 

ความแตกต่างของ Vitamin C แต่ละชนิด ที่บริษัทจำหน่าย:

1. Ethyl Ascorbic Acid: วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)

2. Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): วิตามินซี ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรปานกลาง มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

3. Ascorbyl Glucoside (AA2G™, Stable Vitamin C): วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรปานกลาง มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน (ต้องปรับค่า pH ให้เหมาะสม) มีประสิทธิภาพสูงในด้านความกระจ่างใส (whitening) และริ้วรอย (anti-oxidant)

4. Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine , Vitamin C (L-ascorbic acid) Fine : วิตามินซี ละลายในน้ำ สามารถละลายน้ำได้เร็วมากและกระจายตัวได้ดีมาก มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

5. Vitamin C (L-ascorbic acid): วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

6. Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum : วิตามินซี เบสสำเร็จรูป มีความเสถียรสูง แต่ไม่สามารถปรับแต่งหรือเติมส่วนผสมอื่นๆได้ เนื่องจากจะกระทบกับความเสถียรของเบส มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว

7. Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) : วิตามินซี ละลายน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)

8. Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) : วิตามินซี ละลายน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening) มีลักษณะคล้ายกับ MAP

9. Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) : วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เหมาะสำหรับใช้ทำหน้าที่เป็น anti-oxidant ในสูตรน้ำมัน มีประสิทธิภาพด้านอื่นๆน้อย เมื่อเทียบกับ Vitamin C รูปแบบอื่นๆ

 

แนะนำใช้ Protec™ OX และ Protec™ UV ในสูตร เพื่อช่วยปกป้อง Vitamin C จากการเสื่อมคุณภาพ

 

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย หรือ whitening ให้ผิวขาว  อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม

วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 30°C และ pH อยู่ระหว่าง 2.0-4.0 (อ.ย. กำหนดให้เครื่องสำอางทาผิวต้องมี pH อย่างต่ำ 3.5)

อัตราการใช้: 3-15% (3% สำหรับลดริ้วรอยทั่วไป, 15% สำหรับ whitening ให้ผิวขาวใส)

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาวบริสุทธิ์

การละลาย: สามารถละลายในน้ำในทันทีเนื่องจากเป็นผง Ultra Fine ขนาดเล็กกว่า 45ไมครอน

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 6-8องศา ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างน้อย 2ปี

 

INCI Name: L-Ascorbic Acid (Grade: Ultra-Fine)

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ L-Ascorbic Acid เกรด Ultra-Fine

The Ordinary 100% L-Ascorbic Acid Powder

Mechanism -
Appearance -
Longevity -
Strength -
Storage -
Shelf Life -
Allergen(s) -
Dosage (Range) -
Recommended Dosage -
Dosage (Per Day) -
Recommended Dosage (Per Day) -
Mix Method -
Heat Resistance -
Stable in pH range -
Solubility -
Product Types -
INCI -

ตะกร้า

ไม่มีสินค้า

Subtotal: ฿0.00
฿0.00 รวมทั้งสิ้น :
ตะกร้า arrow_right
สั่งซื้อ arrow_right