Inositol (Vitamn B8) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในระบบประสาทโดยให้พลังแก่เซลล์สมอง ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล

ชนิด myo-inositol

Inositol (Vitamn B8) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีบทบาทสำคัญในระบบประสาทโดยให้พลังแก่เซลล์สมอง ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล

ชนิด myo-inositol

ไมโอ-อิโนซิทอล หรือเรียกง่ายๆ ว่าอิโนซิทอล เป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่อยู่ในกลุ่มวิตามินบี แม้ว่าจะไม่ใช่วิตามินที่จำเป็นก็ตาม มีบทบาทหลายอย่างในร่างกายและเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ

การจัดการกลุ่มอาการรังไข่หลายใบ (PCOS): ไมโอ-อิโนซิทอลได้รับความสนใจอย่างมากถึงศักยภาพในการจัดการอาการของ PCOS ซึ่งเป็นความผิดปกติของฮอร์โมนในสตรี อาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ควบคุมรอบประจำเดือน และลดอาการต่างๆ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ ซีสต์รังไข่ และขนดก (มีขนมากเกินไป)

สุขภาพทางอารมณ์และจิตใจ: ไมโอ-อิโนซิทอลได้รับการศึกษาถึงผลกระทบต่อความผิดปกติทางอารมณ์ โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่าอาจช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ลดอาการวิตกกังวล และบรรเทาอาการตื่นตระหนกได้

การเจริญพันธุ์: สำหรับผู้หญิงที่มี PCOS การเสริมไมโอ-อิโนซิทอลอาจช่วยเพิ่มภาวะเจริญพันธุ์โดยควบคุมรอบประจำเดือนและส่งเสริมการตกไข่ มักใช้เป็นการรักษาเสริมสำหรับภาวะมีบุตรยาก

โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์: มีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าการเสริมไมโอ-อิโนซิทอลในระหว่างตั้งครรภ์อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์และภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องได้

สุขภาพเมตาบอลิซึม: ไมโอ-อิโนซิทอลอาจส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพเมตาบอลิซึม เชื่อกันว่าจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความไวของอินซูลิน และลดความเสี่ยงของโรคเมตาบอลิซึม

สุขภาพทางระบบประสาท: ไมโอ-อิโนซิทอลมีความเข้มข้นสูงในสมอง และเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางระบบประสาทต่างๆ งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่าอาจมีบทบาทในการปกป้องระบบประสาท และสามารถสำรวจได้ในสภาวะต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์

สุขภาพตับ: ไมโอ-อิโนซิทอลอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตับ ได้รับการศึกษาในบริบทของโรคไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (NAFLD) และอาจช่วยลดไขมันในตับและปรับปรุงการทำงานของตับ

สุขภาพผิว: บางครั้งมีการใช้ Inositol ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเนื่องจากมีศักยภาพในการปรับปรุงเนื้อผิวและลดสิว

คุณภาพไข่: มีการตรวจสอบการเสริมอิโนซิทอลถึงศักยภาพในการปรับปรุงคุณภาพไข่ในสตรีที่เข้ารับการรักษาภาวะเจริญพันธุ์