Astaxanthin Liquid (Stabilized, Crystal Clear)

  • Product Code: 127221

แอสตาแซนธิน ชนิดของเหลว ละลายน้ำใส และเสถียร ไม่เปลี่ยนสีเมื่อถูกความร้อน (tested 40C, >1 month) สำหรับเพื่อใช้ในสูตรเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ให้สีแดงสด และให้ประสิทธิภาพ anti-oxidant

฿68.84 ราคาพิเศษนี้สำหรับสั่งหน้าเวปเท่านั้น
กรัม (เริ่มต้นขั้นต่ำ 0 กรัม)

อัตรา ราคาต่อหน่วยจะถูกลง เมื่อสั่งซื้อปริมาณที่สูงขึ้น

กรุณากรอกปริมาณที่ต้องการ ระบบจะแสดงราคาโดยอัตโนมัติ

  •  
ชิ้น, ค่าบรรจุ: 0/ชิ้น

สินค้าจะถูกบรรจุตามปริมาณที่สั่งซื้อ

หมดอายุ:
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
Test Name Specification
Appearance Dark red liquid
Content of Astaxanthin (HPLC) 0.8-1.2%
Heavy metals NMT 20ppm (≤20ppm)

Astaxanthin แอสตาแซนธิน ชนิดของเหลว ละลายน้ำใส และเสถียร ไม่เปลี่ยนสีเมื่อถูกความร้อน (tested 40C, >1 month) สำหรับเพื่อใช้ในสูตรเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ให้สีแดงสด และให้ประสิทธิภาพ anti-oxidant

แอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ทรงพลัง สกัดได้จากสาหร่ายขนาดเล็ก (ชื่อ Haematococcus pluvialis) โครงสร้างโมเลกุลที่ไม่เหมือนใครทำให้มันสามารถแทรกตัวอยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ได้ทั้งหมด ช่วยปกป้องเซลล์จากภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) ได้อย่างครอบคลุม พอเอามาใช้ทาบนผิว ก็มีประโยชน์หลายอย่างเลย:

  1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมและช่วยชะลอวัย:

    • แอสตาแซนธินเก่งมากในการจัดการกับอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด (UV), มลภาวะ และกระบวนการเผาผลาญในร่างกายเราเอง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิว โดยเฉพาะคอลลาเจนกับอีลาสติน ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และร่องตื้นๆ
    • ว่ากันว่ามันมีฤทธิ์แรงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระตัวดังๆ อย่างวิตามินอี, วิตามินซี, เบต้าแคโรทีน หรือ CoQ10 ในการกำจัดอนุมูลอิสระบางชนิดด้วย
    • งานวิจัย:
      • Tominaga, K., Hongo, N., Karato, M., & Yamashita, E. (2012). Cosmetic benefits of astaxanthin on humans subjects. Acta Biochimica Polonica, 59(1), 43-47. (PMID: 22428137) - งานวิจัยนี้ (แม้จะพูดถึงการใช้ทั้งแบบกินและทา) พบว่าช่วยให้ริ้วรอยดีขึ้น, ขนาดจุดด่างดำลดลง, ผิวยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้น ผู้วิจัยเสนอว่าแอสตาแซนธินช่วยป้องกันความเสียหายจาก UV และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ  
      • Suganuma, K., Nakajima, H., Ohtsuki, M., & Imokawa, G. (2010). Astaxanthin attenuates the UVA-induced up-regulation of matrix-metalloproteinase-1 and skin fibroblast elastase in human dermal fibroblasts. Journal of Dermatological Science, 58(2), 136-142. (DOI: 10.1016/j.jdermsci.2010.02.009) - งานวิจัยในหลอดทดลอง (in vitro) นี้แสดงให้เห็นว่าแอสตาแซนธินช่วยยับยั้งการเพิ่มขึ้นของเอนไซม์ (MMP-1 และ elastase) ที่ถูกกระตุ้นโดยรังสี UVA ซึ่งเอนไซม์พวกนี้จะไปย่อยสลายคอลลาเจนและอีลาสตินในเซลล์ผิวหนังมนุษย์  
  2. ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด (UV Protection):

    • ถึงแม้จะใช้แทนครีมกันแดดไม่ได้ แต่แอสตาแซนธินช่วยลดความเสียหายของผิวที่เกิดจากรังสี UV ได้ มันช่วยลดการอักเสบ, ความเสียหายต่อ DNA, และการเกิดเซลล์ผิวไหม้แดด (sunburn cells) ที่เกิดจาก UV
    • ช่วยป้องกันความแก่ก่อนวัยจากแสงแดด (photo-aging) โดยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UVA และ UVB
    • งานวิจัย:
      • Lyons, N. M., & O'Brien, N. M. (2002). Modulatory effects of an algal extract containing astaxanthin on UVA-irradiated cells in culture. Journal of Dermatological Science, 30(1), 73-84. (DOI: 10.1016/s0923-1811(02)00063-4) - งานวิจัยนี้พบว่าสารสกัดจากสาหร่ายที่มีแอสตาแซนธินช่วยปกป้องเซลล์ (ในหลอดทดลอง) จากความเสียหายต่อ DNA และการตายของเซลล์ที่เกิดจากรังสี UVA  
      • Camera, E., Mastrofrancesco, A., Fabbri, C., Daubrawa, F., Picardo, M., Sies, H., & Stahl, W. (2009). Astaxanthin, canthaxanthin and β-carotene differently affect UVA-induced oxidative damage and expression of oxidative stress-responsive enzymes. Experimental Dermatology, 18(3), 222-231. (DOI: 10.1111/j.1600-0625.2008.00790.x) - แสดงให้เห็นถึงผลการป้องกันของแอสตาแซนธินต่อตัวชี้วัดความเครียดออกซิเดชันที่เกิดจาก UVA และการปรับการทำงานของเอนไซม์ที่ตอบสนองต่อความเครียดนี้ในเซลล์ผิวหนัง (ในหลอดทดลอง)  
  3. ช่วยลดการอักเสบ:

    • แอสตาแซนธินมีคุณสมบัติลดการอักเสบได้ดี โดยไปยับยั้งตัวบ่งชี้และกลไกการอักเสบในผิวหนัง (เช่น NF-κB) ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและลดรอยแดงได้
    • งานวิจัย:
      • Davinelli, S., Nielsen, M. E., & Scapagnini, G. (2018). Astaxanthin in Skin Health, Repair, and Disease: A Comprehensive Review. Nutrients, 10(4), 522. (DOI: 10.3390/nu10040522) - บทความทบทวนงานวิจัยฉบับนี้รวบรวมงานศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นความสามารถของแอสตาแซนธินในการยับยั้งสารสื่อกลางที่ทำให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง แม้จะครอบคลุมการใช้หลายรูปแบบ แต่ก็ยืนยันบทบาทการลดอักเสบที่นำมาปรับใช้กับการทาได้  
  4. ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น:

    • การที่มันช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว (skin barrier) และลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ทำให้แอสตาแซนธินสามารถช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นได้
    • งานวิจัย:
      • Tominaga et al. (2012) (อ้างอิงไว้ข้างบน) ก็รายงานว่าผิวของผู้เข้าร่วมวิจัยมีความชุ่มชื้นดีขึ้น (แต่งานนี้ใช้ทั้งกินและทาควบคู่กัน ซึ่งอาจส่งเสริมกัน)
      • งานวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) อย่างเช่นที่ Zhou, X., et al. (2015) หรือบทความทบทวนอย่าง Ng, Q. X., et al. (2020) มักจะสรุปผลจากหลายงานวิจัยที่สนับสนุนว่าแอสตาแซนธิน (ทั้งแบบกินและกลไกที่แบบทาทำได้) มีผลต่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ anti-oxidant

วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C, สูตรควรจะมี pH ในช่วง 4.0-4.5 เพื่อให้มีอายุ shelf life ยืนยาวขั้นต่ำ 2ปี (หาก pH สูงหรือต่ำกว่านี้มาก จะทำให้ Astaxanthin เสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น)

อัตราการใช้: 0.1-5%

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลวละลายในน้ำ

การละลาย: สามารถละลายในน้ำ ให้ของเหลวใส สีแดงสด

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น  ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน

 

INCI Name : PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Astaxanthin (or Haematococcus Pluvialis Extract), Tocopheryl Acetate




Be the first to review this product :-)

Please login to write a review.






บริการวิเคราะห์
บริการแลป ราคา
Astaxanthin Liquid (Stabilized, Crystal Clear)

แอสตาแซนธิน ชนิดของเหลว ละลายน้ำใส และเสถียร ไม่เปลี่ยนสีเมื่อถูกความร้อน (tested 40C, >1 month) สำหรับเพื่อใช้ในสูตรเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ให้สีแดงสด และให้ประสิทธิภาพ anti-oxidant

Astaxanthin แอสตาแซนธิน ชนิดของเหลว ละลายน้ำใส และเสถียร ไม่เปลี่ยนสีเมื่อถูกความร้อน (tested 40C, >1 month) สำหรับเพื่อใช้ในสูตรเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ให้สีแดงสด และให้ประสิทธิภาพ anti-oxidant

แอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ทรงพลัง สกัดได้จากสาหร่ายขนาดเล็ก (ชื่อ Haematococcus pluvialis) โครงสร้างโมเลกุลที่ไม่เหมือนใครทำให้มันสามารถแทรกตัวอยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ได้ทั้งหมด ช่วยปกป้องเซลล์จากภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) ได้อย่างครอบคลุม พอเอามาใช้ทาบนผิว ก็มีประโยชน์หลายอย่างเลย:

  1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมและช่วยชะลอวัย:

    • แอสตาแซนธินเก่งมากในการจัดการกับอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด (UV), มลภาวะ และกระบวนการเผาผลาญในร่างกายเราเอง ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิว โดยเฉพาะคอลลาเจนกับอีลาสติน ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และร่องตื้นๆ
    • ว่ากันว่ามันมีฤทธิ์แรงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระตัวดังๆ อย่างวิตามินอี, วิตามินซี, เบต้าแคโรทีน หรือ CoQ10 ในการกำจัดอนุมูลอิสระบางชนิดด้วย
    • งานวิจัย:
      • Tominaga, K., Hongo, N., Karato, M., & Yamashita, E. (2012). Cosmetic benefits of astaxanthin on humans subjects. Acta Biochimica Polonica, 59(1), 43-47. (PMID: 22428137) - งานวิจัยนี้ (แม้จะพูดถึงการใช้ทั้งแบบกินและทา) พบว่าช่วยให้ริ้วรอยดีขึ้น, ขนาดจุดด่างดำลดลง, ผิวยืดหยุ่นและเรียบเนียนขึ้น ผู้วิจัยเสนอว่าแอสตาแซนธินช่วยป้องกันความเสียหายจาก UV และมีฤทธิ์ลดการอักเสบ  
      • Suganuma, K., Nakajima, H., Ohtsuki, M., & Imokawa, G. (2010). Astaxanthin attenuates the UVA-induced up-regulation of matrix-metalloproteinase-1 and skin fibroblast elastase in human dermal fibroblasts. Journal of Dermatological Science, 58(2), 136-142. (DOI: 10.1016/j.jdermsci.2010.02.009) - งานวิจัยในหลอดทดลอง (in vitro) นี้แสดงให้เห็นว่าแอสตาแซนธินช่วยยับยั้งการเพิ่มขึ้นของเอนไซม์ (MMP-1 และ elastase) ที่ถูกกระตุ้นโดยรังสี UVA ซึ่งเอนไซม์พวกนี้จะไปย่อยสลายคอลลาเจนและอีลาสตินในเซลล์ผิวหนังมนุษย์  
  2. ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด (UV Protection):

    • ถึงแม้จะใช้แทนครีมกันแดดไม่ได้ แต่แอสตาแซนธินช่วยลดความเสียหายของผิวที่เกิดจากรังสี UV ได้ มันช่วยลดการอักเสบ, ความเสียหายต่อ DNA, และการเกิดเซลล์ผิวไหม้แดด (sunburn cells) ที่เกิดจาก UV
    • ช่วยป้องกันความแก่ก่อนวัยจากแสงแดด (photo-aging) โดยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UVA และ UVB
    • งานวิจัย:
      • Lyons, N. M., & O'Brien, N. M. (2002). Modulatory effects of an algal extract containing astaxanthin on UVA-irradiated cells in culture. Journal of Dermatological Science, 30(1), 73-84. (DOI: 10.1016/s0923-1811(02)00063-4) - งานวิจัยนี้พบว่าสารสกัดจากสาหร่ายที่มีแอสตาแซนธินช่วยปกป้องเซลล์ (ในหลอดทดลอง) จากความเสียหายต่อ DNA และการตายของเซลล์ที่เกิดจากรังสี UVA  
      • Camera, E., Mastrofrancesco, A., Fabbri, C., Daubrawa, F., Picardo, M., Sies, H., & Stahl, W. (2009). Astaxanthin, canthaxanthin and β-carotene differently affect UVA-induced oxidative damage and expression of oxidative stress-responsive enzymes. Experimental Dermatology, 18(3), 222-231. (DOI: 10.1111/j.1600-0625.2008.00790.x) - แสดงให้เห็นถึงผลการป้องกันของแอสตาแซนธินต่อตัวชี้วัดความเครียดออกซิเดชันที่เกิดจาก UVA และการปรับการทำงานของเอนไซม์ที่ตอบสนองต่อความเครียดนี้ในเซลล์ผิวหนัง (ในหลอดทดลอง)  
  3. ช่วยลดการอักเสบ:

    • แอสตาแซนธินมีคุณสมบัติลดการอักเสบได้ดี โดยไปยับยั้งตัวบ่งชี้และกลไกการอักเสบในผิวหนัง (เช่น NF-κB) ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและลดรอยแดงได้
    • งานวิจัย:
      • Davinelli, S., Nielsen, M. E., & Scapagnini, G. (2018). Astaxanthin in Skin Health, Repair, and Disease: A Comprehensive Review. Nutrients, 10(4), 522. (DOI: 10.3390/nu10040522) - บทความทบทวนงานวิจัยฉบับนี้รวบรวมงานศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นความสามารถของแอสตาแซนธินในการยับยั้งสารสื่อกลางที่ทำให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง แม้จะครอบคลุมการใช้หลายรูปแบบ แต่ก็ยืนยันบทบาทการลดอักเสบที่นำมาปรับใช้กับการทาได้  
  4. ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น:

    • การที่มันช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว (skin barrier) และลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ทำให้แอสตาแซนธินสามารถช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นได้
    • งานวิจัย:
      • Tominaga et al. (2012) (อ้างอิงไว้ข้างบน) ก็รายงานว่าผิวของผู้เข้าร่วมวิจัยมีความชุ่มชื้นดีขึ้น (แต่งานนี้ใช้ทั้งกินและทาควบคู่กัน ซึ่งอาจส่งเสริมกัน)
      • งานวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) อย่างเช่นที่ Zhou, X., et al. (2015) หรือบทความทบทวนอย่าง Ng, Q. X., et al. (2020) มักจะสรุปผลจากหลายงานวิจัยที่สนับสนุนว่าแอสตาแซนธิน (ทั้งแบบกินและกลไกที่แบบทาทำได้) มีผลต่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ anti-oxidant

วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C, สูตรควรจะมี pH ในช่วง 4.0-4.5 เพื่อให้มีอายุ shelf life ยืนยาวขั้นต่ำ 2ปี (หาก pH สูงหรือต่ำกว่านี้มาก จะทำให้ Astaxanthin เสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น)

อัตราการใช้: 0.1-5%

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลวละลายในน้ำ

การละลาย: สามารถละลายในน้ำ ให้ของเหลวใส สีแดงสด

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น  ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน

 

INCI Name : PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Astaxanthin (or Haematococcus Pluvialis Extract), Tocopheryl Acetate

Mechanism -
Appearance -
Longevity -
Strength -
Storage -
Shelf Life -
Allergen(s) -
Dosage (Range) -
Dosage (Per Day) -
Mix Method -
Heat Resistance -
Stable in pH range -
Solubility -
Product Types -
INCI -

ตะกร้า

ไม่มีสินค้า

Subtotal: ฿0.00
฿0.00 รวมทั้งสิ้น :