การวิจัยของพิโคลินาไมด์แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยลดฝ้าได้ มีประสิทธิผลมากกว่าไฮโดรควิโนน

จากการวิจัย โดย UNILEVER พบว่า การใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (Niacinamide) มีประสิทธิภาพการลดฝ้า และให้ผิวขาวได้มากขึ้น

การวิจัยของ Picolinamide แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยลดฝ้าได้ มีประสิทธิผลมากกว่าไฮโดรควิโนน

บทความวิจัยเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารแนบ

นี่คือบทสรุปทางเทคนิคของประเด็นสำคัญจากเอกสาร:

1. การศึกษาประเมินผลของครีมพิโคลินาไมด์ 5% เทียบกับครีมไฮโดรควิโนน 2% ในการรักษาฝ้าที่ผิวหนังชั้นนอก

2. ลงทะเบียนผู้ป่วยที่เป็นฝ้าผิวหนังชั้นนอกจำนวน 30 ราย วัดระดับเมลานินในชั้นหนังกำพร้าโดยใช้คัลเลอริมิเตอร์ และถ่ายรูปก่อนและหลังการรักษา 8 สัปดาห์

3. ผู้ป่วยทาครีมพิโคลินาไมด์ที่ด้านหนึ่งของใบหน้า และทาครีมไฮโดรควิโนนที่อีกด้านหนึ่ง

4. หลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์ ระดับเมลานินโดยเฉลี่ยในชั้นหนังกำพร้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 20% ทั้งสองด้านเมื่อเทียบกับการตรวจวัดพื้นฐาน โดยไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญระหว่างด้านที่ได้รับพิโคลินาไมด์และไฮโดรควิโนน

5. หลังการรักษาไม่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญต่อการเกิดผื่นแดง (รอยแดง) ของผิวหนังทั้งสองข้าง

6. ในขณะที่ระดับเมลานินลดลง การปรับปรุงทางคลินิกของฝ้าตามการประเมินโดยแพทย์ผิวหนังและผู้ป่วยไม่ถือว่ามีนัยสำคัญ

7. ผลการวิจัยพบว่าครีมพิโคลินาไมด์ 5% มีฤทธิ์ลดเม็ดสีเทียบเท่ากับไฮโดรควิโนน 2% โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างมีนัยสำคัญ รับประกันการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดสูตรและระยะเวลาการรักษา

โดยสรุป การศึกษานำร่องนี้ให้หลักฐานเบื้องต้นว่าครีมพิโคลินาไมด์เฉพาะที่อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมแทนไฮโดรควิโนนในการรักษาฝ้าที่ผิวหนังชั้นนอก

อัตราการใช้งาน: 0.1-1%

ลักษณะผลิตภัณฑ์: สีขาว/ผงสีอ่อน

ความสามารถในการละลาย: สามารถละลายใน glycol เช่น butylene glycol

การเก็บรักษา: เก็บในที่เย็น หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงและความร้อน มีอายุอย่างน้อย 24 เดือน

INCI : Picolinamide

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Picolinamide

Murad Retinol Youth Renewal Night Cream