เอมีนตติยภูมิที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการโพลีเมอไรเซชันและในการผลิตโฟมโพลียูรีเทน

เพนตาเมทิลไดเอทิลีนไตรเอมีน (PMDETA) เป็นเอมีนตติยภูมิที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการโพลีเมอไรเซชันและในการผลิตโฟมโพลียูรีเทน ในบริบทของการเคลือบ PMDETA สามารถใช้เป็นสารบ่มหรือตัวเร่งปฏิกิริยาได้เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบที่เกี่ยวข้องกับเรซินอีพอกซีหรือสารเคลือบโพลียูรีเทน

คุณสมบัติหลักของ PMDETA ในการใช้งานเคลือบ:

1. กิจกรรมเร่งปฏิกิริยา : PMDETA เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเกิดพอลิเมอไรเซชันและการบ่มของระบบอีพอกซีและโพลียูรีเทน โดยจะเร่งปฏิกิริยาระหว่างเรซินและตัวทำให้แข็งขึ้น ทำให้เวลาในการบ่มเร็วขึ้น

2. ความยืดหยุ่นในการกำหนดสูตร : เนื่องจากโครงสร้างเอมีนตติยภูมิ PMDETA จึงสามารถใช้ในสูตรเคลือบต่างๆ เพื่อควบคุมอัตราการบ่มและให้บรรลุคุณสมบัติตามต้องการ เช่น ความแข็ง ความยืดหยุ่น และการยึดเกาะ

3. คุณสมบัติการเคลือบที่ดีขึ้น : โดยการปรับปรุงกระบวนการบ่ม PMDETA สามารถช่วยให้ได้การเคลือบที่มีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีขึ้น รวมถึงการยึดเกาะ ความเหนียว และความต้านทานต่อสารเคมีและการเสียดสีที่ดีขึ้น

4. เสถียรภาพทางความร้อน : สารเคลือบที่แข็งตัวด้วยความช่วยเหลือของ PMDETA มักจะมีเสถียรภาพทางความร้อนที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้งานที่สารเคลือบอาจสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูง

5. ความเข้ากันได้ : PMDETA เข้ากันได้กับเรซินอีพอกซี โพลียูรีเทน และส่วนประกอบเคลือบชนิดต่างๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่หลากหลายในสูตรที่แตกต่างกัน

การประยุกต์ใช้ในการเคลือบผิว:

• การเคลือบอีพ็อกซี่ : PMDETA สามารถใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเคลือบอีพ็อกซี่ ช่วยควบคุมกระบวนการบ่มและปรับปรุงคุณสมบัติขั้นสุดท้ายของการเคลือบ
• การเคลือบโพลียูรีเทน : ในระบบโพลียูรีเทน PMDETA ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ช่วยในการสร้างเมทริกซ์โพลีเมอร์ ส่งผลให้การเคลือบมีความทนทานและทนต่อสารเคมีมากขึ้น
• กาวและวัสดุยาแนว : PMDETA ยังใช้ในการผลิตกาวและวัสดุยาแนว ซึ่งคุณสมบัติเร่งปฏิกิริยาจะช่วยให้เกิดการยึดติดที่แข็งแรงและยาวนาน