ประกอบด้วยคอลลาเจนชนิด I และ III, WrinkleCare™ คอลลาเจนเกรดพิเศษ ที่มีการทดสอบว่ามีประสิทธิภาพสูง ในการต่อต้านการสลายของ ไฮยาลูรอน และอีลาสติน ของผิว

คอลลาเจนเปปไทด์ที่ได้จาก กระดูกวัว เป็นแหล่งโปรตีนที่มีประโยชน์ทางชีวภาพมากมายซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เปปไทด์เหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากมีศักยภาพในการเสริมสร้างสุขภาพในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง ข้อต่อ และสุขภาพโดยรวม

WrinkleCare™ Collagen Peptide (Bovine Bone) เป็น คอลลาเจนเกรดพิเศษ ที่มีการทดสอบว่ามีประสิทธิภาพสูง ในการต่อต้านการสลายของ ไฮยาลูรอน และอีลาสติน ของผิว ดังนี้

1. จากการสอบความสามารถในการยับยั้งการสลายของไฮยาลูรอนของผิว (Anti hyaluronidase) พบว่า ที่ความเข้มข้น 50mg/ml มีประสิทธฺภาพการต่อต้านสูงมากกว่า 60% 

2. จากการสอบความสามารถในการยับยั้งการสลายของอีลาสตินของผิว (Anti elastase) พบว่า ที่ความเข้มข้น 50mg/ml มีประสิทธฺภาพการต่อต้านสูงมากกว่า 60%

บริษัทมีบริการทดสอบประสิทธิภาพดังกล่าวในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของท่าน เพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นจริงกับร่างกายได้

ประโยชน์ด้านสุขภาพที่สำคัญของ คอลลาเจนเปปไทด์จากกระดูกวัว :

1. ช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น

• ส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิว : คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง และเปปไทด์คอลลาเจนจากวัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยเส้นเล็กๆ
• การเติมน้ำให้ผิวหนัง : การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าคอลลาเจนเปปไทด์สามารถปรับปรุงระดับความชื้นในผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นมากขึ้น
• การรักษาแผล : คอลลาเจนมีความจำเป็นต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดังนั้นการรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์จึงช่วยให้แผลหรือบาดเจ็บหายเร็วขึ้นได้

2. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพข้อต่อและกระดูก

• ช่วยลดอาการปวดข้อ : คอลลาเจนเปปไทด์จากวัวอาจช่วยลดอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมและอาการปวดข้อได้ด้วยการสนับสนุนการสร้างกระดูกอ่อนใหม่และลดการอักเสบ
• เสริมสร้างกระดูก : คอลลาเจนมีความสำคัญต่อโครงสร้างกระดูก การเสริมคอลลาเจนเปปไทด์สามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและอาจชะลอการสูญเสียมวลกระดูกที่เกี่ยวข้องกับอายุซึ่งอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุนได้
• ปรับปรุงการเคลื่อนไหว : การรับประทานเป็นประจำสามารถปรับปรุงการเคลื่อนไหวและความยืดหยุ่นโดยรวมได้ โดยการสนับสนุนสุขภาพข้อต่อและกระดูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหรือตึงที่ข้อ

3. ส่งเสริมสุขภาพลำไส้

• การบำรุงเยื่อบุลำไส้ : คอลลาเจนช่วยรักษาความสมบูรณ์ของเยื่อบุลำไส้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้ เช่น โรคลำไส้รั่ว โรคลำไส้อักเสบ (IBD) หรือโรคลำไส้แปรปรวน (IBS)
• ช่วยย่อยอาหาร : กรดอะมิโนในคอลลาเจน เช่น ไกลซีนและกลูตามีน ช่วยซ่อมแซมระบบย่อยอาหารและส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดีขึ้น

4. เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

• รองรับการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ : คอลลาเจนเปปไทด์ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น โดยเฉพาะไกลซีน โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีน ซึ่งมีความสำคัญต่อการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ออกกำลังกายหรือฝึกความแข็งแรง
• ป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ : สำหรับผู้สูงอายุ คอลลาเจนเปปไทด์จะช่วยป้องกันภาวะซาร์โคพีเนีย (การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามวัย)

5. เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผมและเล็บ

• การเจริญเติบโตของเส้นผม : คอลลาเจนเปปไทด์เชื่อว่ามีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมที่แข็งแรงและหนาขึ้นโดยให้กรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับการผลิตเคราติน
• สุขภาพเล็บ : การรับประทานคอลลาเจนเป็นประจำสามารถทำให้เล็บแข็งแรงขึ้น ลดความเปราะบาง และส่งเสริมให้เล็บยาวเร็วขึ้น

6. สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

• สนับสนุนสุขภาพของหลอดเลือดแดง : คอลลาเจนช่วยสร้างโครงสร้างให้กับหลอดเลือดและหลอดเลือดแดง การรักษาระดับคอลลาเจนอาจช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดแดง เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
• กรดอะมิโนสำหรับสุขภาพหัวใจ : ไกลซีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบในคอลลาเจน มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และอาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจโดยรวม