สามารถช่วยนำพาส่วนผสม (penetration enhancer) ซึ่งเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ เมื่อเทียบกับ penetration enhancer ชนิดอื่นๆ ที่ได้จากสังเคราะห์เคมี

Pepper Extract (Piperine 98%) นิยมใช้ในยา โดยออกฤทธิ์ analgesic (ระงับปวด) และ anti-inflammatory (ระงับการอักเสบ) และรักษาอาการด่างขาว (vitiligo) ได้ดี โดยการใช้ในเครื่องสำอาง พบว่า สามารถช่วยนำพาส่วนผสม (penetration enhancer) ซึ่งเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ เมื่อเทียบกับ penetration enhancer ชนิดอื่นๆ ที่ได้จากสังเคราะห์เคมี

การทดลองใช้ Piperine ในการช่วยนำพา Curcumin (สารสกัดจากขมิ้น) เข้าสู่ผิว

คำอธิบาย: การใช้ Piperine ร่วมในสูตรที่มีการใช้สารสกัดขมิ้น (Curcumin) สามารถเพิ่ม flux (ปริมาณการดูดซึมสารเข้าสู่ผิว) ได้มากถึงประมาณ 2เท่า (4.29 ug/cm2/h กลายเป็น 8.10 ug/cm2/h)

การทดลองใช้ Piperine ร่วมกับ สารนำพาอื่นๆ (DMSO) พบว่า การใช้ร่วมกัน สามารถเพิ่มการนำพาได้สูงขึ้นมาก (สังเกตุ FGDP ซึ่งเป็นการใช้ DMSO ร่วมกับ Piperine เมื่อเทียบกับ FGDH คือการใช้ DMSO อย่างเดียว และ FGPH คือการใช้ Piperine อย่างเดียว)

จุดเด่นของ Piperine คือ สามารถทำงานร่วมกับสารนำพาอื่นๆ เช่น Ethoxydiglycol, DMI , Laurocapram เนื่องจากสามารถละลายในสารนำพาดังกล่าวได้ โดยเนื่องจากมีกลไกการทำงานต่างจากสารนำพาเหล่านี้ จึงเป็นการเสริมการทำงานร่วมกัน [ในการวิจัย ทำการทดสอบใช้ Piperine ร่วมกับ DMSO พบว่าสามารถเสริมการทำงานและนำพาสาร active เพิ่มขึ้นได้ 2เท่า เทียบกับการใช้เดี่ยว แต่ DMSO ไม่ได้รับอนุญาติจากทาง อย. ให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง]

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใดๆ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของสูตร

วิธีการผสม: ผสมในตัวทำละลาย(ตรวจสอบการละลายด้านล่าง) แล้วจึงเติมลงในสูตร หลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 40C

อัตราการใช้: 0.5-2% (แนะนำ 1%)

ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาว-สีอ่อน

การละลาย: สามารถละลายใน Ethoxydiglycol, DMI, Laurocapram, DMSO

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 2ปี

INCI Name: Piper Nigrum (Pepper) Fruit Extract