สารทำให้แข็งชนิดโพลีไอโซไซยาเนตชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นหลักในการกำหนดสูตรเคลือบโพลียูรีเทน กาว และสารเคลือบหลุมร่องฟัน เป็นผลิตภัณฑ์จาก Covestro ผู้ผลิตโพลีเมอร์และวัสดุประสิทธิภาพสูงชั้นนำ

Desmodur L75 เป็นอะโรมาติกโพลีไอโซไซยาเนตชนิดหนึ่งที่ใช้เป็นหลักในการกำหนดสูตรเคลือบโพลียูรีเทน กาว และสารเคลือบหลุมร่องฟัน เป็นผลิตภัณฑ์ของ Covestro ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านโพลีเมอร์และวัสดุประสิทธิภาพสูง Desmodur L75 ขึ้นชื่อในด้านลักษณะการเกิดปฏิกิริยาและประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานเคลือบ

ลักษณะสำคัญ

1. องค์ประกอบทางเคมี:

   • ประเภท: อะโรมาติกโพลีไอโซไซยาเนตที่มีโทลูอีนไดไอโซไซยาเนต (TDI)
   • ปริมาณไอโซไซยาเนต: โดยทั่วไปประมาณ 13.0-14.0% โดยน้ำหนัก
   • ความหนืด: ประมาณ 3,000-6,000 mPa·s ที่ 23°C

2. คุณสมบัติ:

   • ปฏิกิริยา: มีปฏิกิริยาสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่บ่มอย่างรวดเร็ว
   • คุณสมบัติทางกล: ให้การเคลือบที่มีความแข็งและความยืดหยุ่นที่ดี
   • ความทนทาน: ให้การปกป้องและประสิทธิภาพที่ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

การใช้งาน

1. สารเคลือบ:

   • สีเคลือบอุตสาหกรรม: เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ต้องการการแห้งเร็วและประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง
   • สีเคลือบไม้: ให้การเคลือบพื้นผิวไม้ที่ทนทาน เพิ่มความทนทานต่อการเสียดสีและสารเคมี
   • การเคลือบป้องกัน: ใช้ในการเคลือบที่ต้องทนทานต่อสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น การเคลือบพื้นและการเคลือบเพื่อการบำรุงรักษางานหนัก

2. กาวและสารผนึก:

   • กาวสำหรับงานก่อสร้าง: ใช้ในงานยึดติดที่ต้องการการยึดเกาะที่แข็งแรงและแห้งตัวเร็ว
   • สารเคลือบหลุมร่องฟัน: ให้โซลูชั่นการปิดผนึกที่มีประสิทธิภาพพร้อมคุณสมบัติทางกลและความต้านทานที่ดี

ข้อดี

• การบ่มอย่างรวดเร็ว: ปฏิกิริยาสูงช่วยให้แห้งและบ่มได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์ในการใช้งานที่ต้องคำนึงถึงเวลา
• ความทนทาน: มีความแข็งแรงเชิงกลที่ดีและทนทานต่อปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
• ความอเนกประสงค์: ใช้ได้กับสูตรและการใช้งานที่หลากหลาย

ข้อเสีย

• ลักษณะอะโรมาติก: ด้วยการใช้ TDI อาจมีความไวต่อแสง UV สูงกว่า ส่งผลให้เกิดสีเหลืองหรือเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสงแดดเมื่อเวลาผ่านไป
• ข้อกำหนดในการจัดการ: ต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวังและข้อควรระวังด้านความปลอดภัยเนื่องจากลักษณะปฏิกิริยาของไอโซไซยาเนต

การจัดการและความปลอดภัย

1. อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE):

   • ใช้ PPE ที่เหมาะสม รวมถึงถุงมือ แว่นตา และชุดป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา
   • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้เครื่องช่วยหายใจหรือการระบายอากาศที่เพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงการหายใจเอาไอระเหยเข้าไป

2. พื้นที่จัดเก็บ:

   • เก็บในภาชนะที่ปิดสนิทในที่เย็นและแห้ง ห่างจากความชื้นและแหล่งกำเนิดประกายไฟ
   • ปกป้องจากอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10°C และสูงกว่า 30°C เพื่อรักษาความเสถียรของผลิตภัณฑ์

3. มาตรการด้านความปลอดภัย:

   • ปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารข้อมูลความปลอดภัย (SDS) ทั้งหมดเพื่อการจัดการและกำจัดอย่างปลอดภัย
   • ใช้ในบริเวณที่มีการระบายอากาศดีเพื่อป้องกันการสะสมของไอระเหย