ถามคำถามที่นี่ - เครื่องสำอาง

สวัสดีค่ะอยากขอคำปรึกษาเรื่อง ส่วนผสม ครีมที่เหมาะกับสภาพผิวที่แพ้ง่าย และใช้ยาสิวที่ค่อนข้างแรง คือ เคยลองใช้บริการ Test ส่วนผสมของทางร้านมาแล้ว แต่ก็ยังแพ้ เพราะ ใส่ส่วนผสมมาเยอะเกินไป จนทำให้ไม่รู้ว่าแพ้ ส่วนผสมตัวไหน บ้าง แล้วปัจจุบันนี้ ยังหาครีมที่ใช้แล้วให้ความชุ่มชื่นเหมาะกับผิวไม่ได้เลยค่ะปัจจุบันใช้แต่ Aloe Vera Gel เพราะไม่แพ้แค่ตัวนี้ แต่ความชุ่มชื้นยังไม่เพียงพอ เพราะใช้ยาสิวควบด้วยทำให้หน้าแห้งมาก


ส่วนผสมที่เคยใช้แล้ว ส่วนตัวแพ้นะคะ
-น้ำมันมะกอก(ไม่เคยใช้แบบเป็นน้ำมันโดยตรงนะคะ เคยใช้ครีมที่มีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมหลัก ใช้แล้วสิวอุดตันขึ้นค่ะ)
-น้ำมันมะพร้าว
-shea butter(ultra soft) เคยซื้อมาลองใช้ แต่มันอุดตัน ค่ะ สิวอุดตันขึ้น
-น้ำมันมะรุม
-พวกสารซิลิโคน เช่น Dimethicone
-น้ำมันทุกชนิด และพวกบัตเตอร์ทุกชนิด เราแพ้หมดค่ะ เมื่อทาไปแล้วจะเป็นสิวอุดตันขึ้นมาเลยค่ะ(ถึงแม้ว่าน้ำมันตัวนั้นจะมีค่าอุดตันเป็น 0 ก็ตาม)


สภาพผิวหน้า: ผิวขาดสมดุลเกิดจากการใช้ยาวสิวมานาน ผิวมันขาดน้ำ ผิวจะอุดตันง่ายเมื่อเจอครีมมีส่วนผสมน้ำมัน และครีมที่มีเนื้อหนัก ตอนนี้สภาพผิวแย่มากเลยค่ะ ทั้งแห้งจากยาสิว มีสิวที่เกิดจากการแพ้ครีมทั้งอักเสบ และอุดตัน
ยาสิวที่ใช้: BHA ,Epiduo(ใช้BHA 4วัน ,ใช้Epiduo 3 วัน **จะไม่ทา2ตัวนี้พร้อมกัน**)

ส่วนผสมครีมที่คิดเองนะคะ (ใช้ช่วงกลางคืนเท่านั้น) ปริมาณ 50 กรัม
Aloe Vera Gel(Heavy) 60%
Willow Bark Extract 10%
Safe B3 5%
Licorice Extract 1%
Ichthammol 5%
Hi-Quercetin 10%
Calendula Extract 5%
Sodium Lactate Plus 2%
Double Hyaluron 2%

การผสมก็นำส่วนผสมแต่ละรายการ ค่อยๆเติมลงไปในเบสเจล คนให้เข้ากัน จนครบทุกรายการ ใช่มั้ยคะ

ควรใส่อะไรเพิ่มเติม ที่เหมาะกับสภาพผิวแพ้ง่าย อุดตันง่าย ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

ส่วนผสม (ใช้ตอนเช้า)
จะใช้บริการTest ของทางร้านนะคะ อยากได้เนื้อที่บางเบา แต่ชุ่มชื้น ไม่อุดตันผิวค่ะ เลยลองคิดส่วนผสมออกมาค่ะ

Pure Aloe Vera Gel (ไม่ใช่เครื่องสำอาง)

Moisturizing: beta glucan (เบต้ากลูแคน): beta glucan 10%
Moisturizing: Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส): Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส) 3%
Anti-Acne: Licorice Root Extract (Licochalcone A): Licorice Root Extract (Licochalcone A) 1.0%
Anti-Acne: AcneBee™ Extra สารสกัดนมผึ้ง: AcneBee™ Extra สารสกัดนมผึ้ง 2%
anti-aging/Anti-Acne: Vitamin B3 (Safe-B3™): Vitamin B3 (Safe-B3™) 5%
anti-aging: Centella Asiatica Extract (Madecassoside): Centella Asiatica Extract (Madecassoside) 1.5%


แนะนำด้วยนะคะว่าเหมาะกับผิวที่เป็นสิว อุดตันง่ายมากๆ แพ้ง่ายมากๆ

สวัสดีคะ

ส่วนผสมที่เคยใช้แล้ว ส่วนตัวแพ้นะคะ
-น้ำมันมะกอก(ไม่เคยใช้แบบเป็นน้ำมันโดยตรงนะคะ เคยใช้ครีมที่มีน้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมหลัก ใช้แล้วสิวอุดตันขึ้นค่ะ)
-น้ำมันมะพร้าว
-shea butter(ultra soft) เคยซื้อมาลองใช้ แต่มันอุดตัน ค่ะ สิวอุดตันขึ้น
-น้ำมันมะรุม
-พวกสารซิลิโคน เช่น Dimethicone
-น้ำมันทุกชนิด และพวกบัตเตอร์ทุกชนิด เราแพ้หมดค่ะ เมื่อทาไปแล้วจะเป็นสิวอุดตันขึ้นมาเลยค่ะ(ถึงแม้ว่าน้ำมันตัวนั้นจะมีค่าอุดตันเป็น 0 ก็ตาม)

ลักษณะที่ท่านสมาชิกแจ้งมา ไม่ได้แพ้คะ แต่น่าจะอุดตันคะ โดยมีเรื่องที่ต้องสังเกตุเพิ่มเติมว่า แล้วถ้าหากไม่ใช้อะไรใดๆเหล่านี้เลย อยู่เฉยๆ มีสิวอุดตันขึ้นหรือไม่ หากมี นั่นหมายถึง ส่วนผสมเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้อุดตันเพิ่มขึ้นคะ เพราะผิวมีลักษณะเกิดสิวอุดตันขึ้นด้วยตัวเองอยู่แล้วคะ

สภาพผิวหน้า: ผิวขาดสมดุลเกิดจากการใช้ยาวสิวมานาน ผิวมันขาดน้ำ ผิวจะอุดตันง่ายเมื่อเจอครีมมีส่วนผสมน้ำมัน และครีมที่มีเนื้อหนัก ตอนนี้สภาพผิวแย่มากเลยค่ะ ทั้งแห้งจากยาสิว มีสิวที่เกิดจากการแพ้ครีมทั้งอักเสบ และอุดตัน

ทีมงานรบกวนขอข้อมูล

1. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมด นอกเหนือจากยาทาสิว Epiduo และ BHA ว่ามีอะไรบ้างคะ (ทุกชนิดที่มีโอกาสสัมผัสผิวหน้า น้ำยาล้างหน้า ฯลฯ)

2. ลักษณะการอักเสบ ที่เกิดขึ้นคะ คืออะไรคะ ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นแดง หรือเป็นสิวอักเสบตุ่มแดง หรือเป็นลักษณะใดคะ

ให้เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่านสมาชิกคะ

Epiduo มี active ingredient 2 รายการ ใช้ Adapalene , Benzoyl Peroxide บนเบสครีมเจล ซึ่งเบสจะประกอบด้วย

Disodium EDTA
Docusate sodium
Glycerol
Poloxamer
Propylene Glycol
copolymer of acrylamide and sodium acryloyldimethyltaurate
isohexadecane
Polysorbate 80
sorbitan oleate

ซึ่งท่านสมาชิกจะเห็นว่า บางรายการในนี้ ก็เป็นน้ำมัน เช่นกันคะ

ทีมงานไม่ได้หมายถึงว่า Epiduo ทำให้ท่านสมาชิกเกิดสิวอุดตัน แต่ให้เป็นข้อมูลเพื่อ ให้ท่านสมาชิก เข้าใจว่า ไม่ใช่น้ำมัน หรือบัตเตอร์ ทุกอย่าง ทุกชนิด จะทำให้เกิดสิวคะ ทุกอย่างมีระดับที่เหมาะสมของตัวเองคะ

ในทางกลับกัน ผิวในสภาพปัจจุบัน ซึ่งทีมงานพยายามขอข้อมูล จากท่านสมาชิก เพื่อให้เข้าใจว่า ลักษณะสภาพผิวในปัจจุบัน เกิดจากอะไรบ้าง ที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลอย่างมาก สภาพเช่นนี้ จะเป็นอุปสรรค์ต่อการดูดซึมยาใดๆที่นำมาใช้รักษาสิวอย่างมาก ทำให้การักษาใดๆให้ผลได้จำกัดคะ

สังเกตุเพิ่มเติมว่า แล้วถ้าหากไม่ใช้อะไรใดๆเหล่านี้เลย อยู่เฉยๆ มีสิวอุดตันขึ้นหรือไม่ หากมี นั่นหมายถึง ส่วนผสมเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้อุดตันเพิ่มขึ้นคะ เพราะผิวมีลักษณะเกิดสิวอุดตันขึ้นด้วยตัวเองอยู่แล้วคะ

-จริงค่ะ ถึงไม่ใช้อะไรสิวอุดตันก็มีเกิดขึ้นค่ะ แต่ถ้าได้ครีมที่เนื้อหนักๆข้นๆ สิวอุดตันก็จะขึ้นเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด เคยลองใช้ shea butter(ultra soft)เอามาทาโดยตรง หน้านิ่ม ชุ่มชื่น หน้าที่รู้สึกแสบจากยาสิว หายแสบเลยค่ะ แต่สิวอุดตันและสิวอักเสบเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกว่าพวกน้ำมันกับบัตเตอร์จะเป็นสารก่อสิวสำหรับเราค่ะ เพราะทดลองใช้มาหมดแล้วค่ะ ก็เลยมาปรึกษาว่าจะใช้ส่วนผสมแบบไหนดีที่เหมาะกับผิวแบบนี้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมด นอกเหนือจากยาทาสิว Epiduo และ BHA ว่ามีอะไรบ้างคะ (ทุกชนิดที่มีโอกาสสัมผัสผิวหน้า น้ำยาล้างหน้า ฯลฯ)

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ช่วงเช้า
-eucerin dermo purifyer cleanser ใช้ล้างหน้า
-เซรั่มSKINSCI PLANTS ENERGY Advanced Skin Clear Facial SERUM ตัวนี้เพิ่งได้มาลองใช้ค่ะ เพราะมีส่วนผสมของWillow Bark Extract
-เจลว่านหางจระเข้ i nature Aloe Vera Maxx Gel
-กันแดด eucerin SUN DRY TOUCH SEBUM CONTROL DP60+
(ไม่แต่งหน้าค่ะ แต่งไม่ได้ ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่มักใส่ พวกสารซิลิโคน เช่น Dimethicone ตัวนี้เป็นสารก่อสิวสำหรับเราค่ะ ยิ่งใช้สิวยิ่งอุดตันค่ะ)

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ช่วงเย็น
-garnier cleansing water สีชมพู เช็ดก่อนล้างหน้า
eucerin dermo purifyer cleanser ใช้ล้างหน้าเช้า-เย็น
-BHA ทาทิ้งไว้ 15 นาที(วันไหนที่ใช้BHA จะไม่ใช้ Epiduo )
-เซรั่มSKINSCI PLANTS ENERGY Advanced Skin Clear Facial SERUM
-เจลว่านหางจระเข้ i nature Aloe Vera Maxx Gel
-epiduoทาบางๆ ทั่วหน้า

ลักษณะการอักเสบ ที่เกิดขึ้นคะ คืออะไรคะ ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นแดง หรือเป็นสิวอักเสบตุ่มแดง หรือเป็นลักษณะใดคะ

-ผิวมันจะแสบๆ แดงๆ เกิดจากยาสิวแต่ถ้าเลิกใช้ สิวมันก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอะค่ะ เพราะเคยลองไม่ใช้1สัปดาห์ สิวเพิ่มขึ้นทันที ผิวมันแย่ลงเพราะ ไม่ได้ทาครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นเท่าไหร่ คิดว่าหน้าขาดสมดุลจากทั้งยาสิวและไม่สามารถบำรุงผิวให้ได้ดีพอ แล้วก็มีสิวอักเสบที่เกิดมาจากสิวอุดตัน ก็ค่อนข้างเยอะ


ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยอมรับนะคะว่าความชุ่มชื่นยังไม่พอสำหรับผิวเรา แต่เรายังหาครีมที่มีส่วนผสมเหมาะกับผิวแบบนี้ไม่ได้เลยค่ะ ก็เลยมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านส่วนผสม ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ส่วนผสมที่คิดในข้างต้นเหมาะกับผิวแบบนี้มั้ยคะ หรือไม่ก็รบกวนคิดสูตรที่เหมาะกับผิวแบบนี้หน่อยนะคะ


ส่วนผสมครีมที่คิดเองนะคะ (ใช้ช่วงกลางคืนเท่านั้น) ปริมาณ 50 กรัม
Aloe Vera Gel(Heavy) 60%
Willow Bark Extract 10%
Safe B3 5%
Licorice Extract 1%
Ichthammol 5%
Hi-Quercetin 10%
Calendula Extract 5%
Sodium Lactate Plus 2%
Ectoin 2%(ขอเปลี่ยนนะคะ อันเก่าเป็น Double Hyaluron 2%)


ส่วนผสม (ใช้ตอนเช้า)
จะใช้บริการTest ของทางร้านนะคะ อยากได้เนื้อที่บางเบา แต่ชุ่มชื้น ไม่อุดตันผิวค่ะ เลยลองคิดส่วนผสมออกมาค่ะ

Pure Aloe Vera Gel (ไม่ใช่เครื่องสำอาง)

Moisturizing: beta glucan (เบต้ากลูแคน): beta glucan 10%
Moisturizing: Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส): Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส) 3%
Anti-Acne: Licorice Root Extract (Licochalcone A): Licorice Root Extract (Licochalcone A) 1.0%
Anti-Acne: AcneBee™ Extra สารสกัดนมผึ้ง: AcneBee™ Extra สารสกัดนมผึ้ง 2%
anti-aging/Anti-Acne: Vitamin B3 (Safe-B3™): Vitamin B3 (Safe-B3™) 5%
anti-aging: Centella Asiatica Extract (Madecassoside): Centella Asiatica Extract (Madecassoside) 1.5%
Ectoin 1.0%

สอบถามเพิ่มเติมนะคะ.
ส่วนผสมที่แจ้งไป2สูตร จะมีความเป็นเจลมั้ยคะ เราชอบเนื้อเจลเหลวๆ มากกว่าเนื้อครีมค่ะ จะมีความมันและเหนอะหนะมั้ยคะ เพราะถ้ามีความมันกับความเหนอะหนะ มันจะไปทำให้สิวอุดตันใต้ผิวหนังของเราเพิ่มขึ้นอย่งเห็นได้ชัด เคยคิดว่าถ้าครีมมีความมัน ก็วอร์มครีมก่อนใช้ ทาบางๆ และใช้ช่วงกลางคืนเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ก็ทำให้มีสิวอุดตันเพิ่ม และสิวที่อุดตันอยู่แล้วเกิดการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ

ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ตอนนี้ทรมานจากสิวมากค่ะ ล้างหน้าก็เจ็บหน้ามาก

ขอแจ้งให้ทราบว่าถ้าเจ้าหน้าที่สงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้หน้าเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ไปหาแพทย์ผิวหนัง หรือ คลินิกรักษาสิว?
- ไปมาแล้วค่ะ หลายที่ด้วย ส่วนมากจะให้กินยาแก้อักเสบ หรือ ยาของคลินิกนั้น กินตามคอร์สแล้ว สิวจะหายค่ะ แต่พอเลิกกินหน้าก็กลับมามีสิวอุดตันเหมือนเดิม แล้วสิวก็จะแย่ลงด้วยค่ะ

สวัสดีคะ

ทีมงานเข้าใจปัญหาของทางสมาชิกแล้วคะ

เรียนแนะนำสูตรดังนี้คะ เพื่อให้ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกระคายเคือง และลดการระคายเคืองผิว

Ezerrawax™ 5%
German Chamomile Extract (Natural Bisabolol) 1%
Ectoine 1%
Phospholipid 3%
Panthenol (Pro Vitamin B5) 3%
Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract) 3%
Rhamnose 3%
Safe-B3 3%
Ceramide NG 1%
Licorice Extract (Licochalcone A 1%) 1%
Mild Preserved Eco 1%
Satin Cream Maker 2%
Water ส่วนที่เหลือ

สูตรต้องใช้ความร้อนในการผสมนะคะ

ใช้ทา ทั้งเช้า และเย็นหลังอาบน้ำเสร็จ และให้ทาก่อนนอน หนาๆ อีกครั้งนึงคะ รวมเป็นวันละ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายก่อนนอน ให้พยายามทาหนาหน่อยคะ

สำหรับปัญหาสิวอุดตัน ให้งดใช้ BHA ที่ใช้อยู่ และใช้สูตรนี้แทนคะ

Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) 4%
Mild Preserved Eco 1%
Satin Cream Maker 1%
Water ส่วนที่เหลือ

หลังจาก อาบน้ำเสร็จ ให้ทาทั่วหน้า วันเว้นวัน สลับกับ Epiduo โดยเมื่อทาเสร็จแล้ว ให้รีบทาสูตรบำรุง/ลดการระคายเคืิองตามที่แนะนำด้านบน ทับ ทันทีคะ

พอดีเป็นมือใหม่ไม่เคยผสมครีมเอง พยายามทำความเข้าใจแล้ว เข้าใจแบบนี้ค่ะ

ส่วนผสมที่สามารถละลายน้ำได้
1.-water
2.-Ectoine 1%
3.-Phospholipid 3%
4.-Panthenol (Pro Vitamin B5) 3%
5.-Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract) 3%
6.-Rhamnose 3%
7.-Safe-B3 3%
8.-Licorice Extract (Licochalcone A 1%) 1%
9.-Satin Cream Maker 2%


ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน

10.-Ezerrawax™ 5%
11.-German Chamomile Extract (Natural Bisabolol) 1%
12.-Ceramide NG 1%
13.-Mild Preserved Eco 1%


ขั้นตอนA
นำส่วนผสมที่สามารถละลายน้ำได้
(1+2+3+4+5+6+7+8) คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนB
นำส่วนผสมของน้ำมันมารวมกัน (10+11+12)
ต้องใช้ความร้อนในการผสม
ก็จะนำ10. Ezerrawax มาละลายในความร้อนประมาณ 50 องศา เพราะลักษณะผลิตภัณฑ์: แว๊กซ์ เนื้อแข็ง สีเหลืองอ่อน แล้วก็จะนำเอา
11.-German Chamomile Extract (Natural Bisabolol) และ12.-Ceramide NG 1%มาผสมรวมกัน

ขั้นตอนC
นำ9.-Satin Cream Maker เติมลงไปใน ขั้นตอนA คนให้เข้ากัน แล้วก็นำขั้นตอนA+ขั้นตอน B นำมาผสมรวมกัน โดยการค่อยๆเท ขั้นตอนB ลงไปผสม ขั้นตอนA คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีม

ขั้นตอนD
นำ13.-Mild Preserved Eco 1% มาใส่ในขั้นตอนสุดท้าย



การผสมBHA


Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) 4%
Mild Preserved Eco 1%
Satin Cream Maker 1%
Water ส่วนที่เหลือ

การผสม(ตามความเข้าใจของเรานะคะ)
การละลายของEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) จะละลายในเจลหรือครีมใดๆ
ต้องผสมwater กับ Satin Cream Maker ก่อน คนจนได้เนื้อครีม แล้วค่อยใส่ตัวผง
Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) คนจนผงBHA ละลาย ขั้นตอนสุดท้าย คือใส่ Mild Preserved Eco คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ว่าการผสมครีมมีข้อผิดพลาดตรงไหนบ้าง เพราะจะได้สั่งตัวส่วนผสมมาทำตามสูตรที่เจ้าหน้าที่คิดให้ค่ะ

สวัสดีคะ

สำหรับมือใหม่ ทีมงานเรียนแนะนำให้ตัด

10.-Ezerrawax™ 5%
12.-Ceramide NG 1%

ออกจากสูตร ซึ่งจะทำให้สูตรไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนในการผสมคะ

ขั้นตอนการผสมจะกลายเป็น ผสมส่วนน้ำเข้าด้วยกันทั้งหมด ยกเว้น Phospholipid, Satin Cream Maker โดยเมื่อเข้ากันดีแล้ว ให้เติม Satin Cream Maker ปั่นหรือคนจนได้เนื้อครีม จากนั้นเติม German Chamomile Extract (Natural Bisabolol) , Mild Preserved Eco ปั่นหรือคนจนได้เนื้อครีม จากนั้นเติม Phospholipid ปั่นหรือคนจนได้เนื้อครีม คะ

จากต้องการใช้ส่วนผสม 10,12 ขั้นตอนจะเปลี่ยนไปเป็นดังนี้คะ

ทำเหมือนเดิมด้านบน แต่ หลังจากขั้นตอนที่เติม Satin Cream Maker ซึ่งทำการปั่นหรือคนจนได้เนื้อเจลครีมแล้ว ให้นำส่วนน้ำมัน ไปอุ่นให้ละลายเข้ากันที่ 60-70องศา จากนั้นกลับมาอุ่นส่วนของเนื้อเจลที่เตรียมไว้ ให้ได้อุณหภูมิใกล้ๆกัน แล้วจึงเริ่มเติมส่วนของน้ำมันลงไป แล้วปั่นหรือคนให้ประสานเข้ากันคะ ในกระบวนการอุ่นนี้ ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดี ไม่ใช้ความร้อนสูงเกินกว่า 70องศา และพยายามให้กระบวนการทั้งหมดเสร็จให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสความเสียหายต่อส่วนผสมต่างๆที่ไม่สามารถทนความร้อนได้ดีคะ

การผสม(ตามความเข้าใจของเรานะคะ)
การละลายของEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) จะละลายในเจลหรือครีมใดๆ
ต้องผสมwater กับ Satin Cream Maker ก่อน คนจนได้เนื้อครีม แล้วค่อยใส่ตัวผง
Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) คนจนผงBHA ละลาย ขั้นตอนสุดท้าย คือใส่ Mild Preserved Eco คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน

ถูกต้องคะ เมื่อเติม Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) อาจทำให้เนื้อสูตรเหลวลงบ้าง สามารถปรับให้ข้นขึ้นมาได้ ด้วยการเพิ่ม Satin Cream Maker ในภายหลังคะ

ได้ทดลองทำตามที่staff แนะนำแล้วนะคะ
แล้วเลือกที่จะตัดตัว
10.-Ezerrawax™ 5%
12.-Ceramide NG 1%
ออกเพราะคิดว่า ยังไม่ชำนาญพอกลัวทำผิดพลาด แล้วจึงเพิ่ม Safe-B3 เป็น5%

ปัญหาที่เจอคือ นำมาทาแล้วแสบหน้ามาก
เมื่อผสมแล้ว และได้ลองใช้ มีอาการแสบหน้าทุกครั้งที่ใช้ค่ะ แสบหน้าประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยๆทุเลาลงจนหายไป แต่ไม่เกิดอาการสิวขึ้น สงสัยว่าอาการแสบหน้าแบบนี้เกิดจากอะไรหรอคะ หรือผิวเรามันบางมาก

ในวันแรกที่ทดลองใช้ เราทดลองใช้ทั้งBHA(ที่ผสมเอง)ทาลงไปก่อน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วทาครีม(ที่ผสมเอง)เมื่อทาเสร็จประมาณ 2 นาทีก็มีอาการแสบหน้าขึ้นมาทันที ตอนแรกสงสัยว่าเป็นเพราะBHA จึงลองล้างออกแล้วทาครีมที่ผสมเองอีกครั้ง แต่ก็มีอาการแสบเหมือนเดิมค่ะ

บริเวณที่แสบคือ เหนือริมฝีปาก ข้างปีกจมูกทั้งสองข้าง ผิวบริเวณเหนือคาง





ปัญหาต่อมาคือ ผสมตัวการละลายของEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) พอผสมแล้วนำมาทาที่ผิว มันยังมีความเป็นผง ของตัวEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release)อยู่ค่ะ พยามยามคนด้วยมือนานมาก เกือบชั่วโมง ผงของสารตัวนี้ยังเป็นเม็ดอยู่

ขั้นตอนที่ผสมค่ะ
ผสมwater กับ Satin Cream Maker ก่อน คนจนได้เนื้อครีม แล้วค่อยใส่ตัวผง
Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) คนจนผงBHA ละลาย ขั้นตอนสุดท้าย คือใส่ Mild Preserved Eco คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน

เมื่อใช้แล้วยังเป็นเม็ด จึงลองแก้ปัญหาโดยการนำไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 25วินาที ไม่กล้าอุ่นนานกลัวสารเสียคุณภาพไปมากกว่านี้ ซึ่งวิธีนี้เราไม่ทราบว่าจะทำให้สารเกิดความเสียหายหรือไม่ เมื่ออุ่นเสร็จก็นำมาคนต่อ หวังว่าผงจะละลายเร็วขึ้น ตัวผงEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) มีการละลายไปบ้างแต่ก็มีส่วนที่เป็นเม็ดหลงเหลืออยู่




รอจนแแห้งก็เป็นคราบขาวๆ ทาแล้วมีเนื้อสัมผัสที่แมท รู้สึกยิบๆในบริเวณที่ทาค่ะ


ตัดสินใจลองใช้ที่ผิวหน้า มีความรู้สึกยิบๆที่ผิวค่ะ ถือว่าเป็นปกติมั้ยคะ ที่มีความรู้สึกนี้ และเกิดความสงสัยว่า จะแก้ปัญหาความเป็นเม็ดของผงEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) หลังจากที่ผสมออกมาแล้วอย่างไร และเมื่อนำไปอุ่นด้วยความร้อนทำให้สารเกิดความเสียหายหรือไม่ สามารถนำมาใช้ต่อได้หรือไม่คะ

ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ

ได้ทดลองทำตามที่staff แนะนำแล้วนะคะ
แล้วเลือกที่จะตัดตัว
10.-Ezerrawax™ 5%
12.-Ceramide NG 1%
ออกเพราะคิดว่า ยังไม่ชำนาญพอกลัวทำผิดพลาด แล้วจึงเพิ่ม Safe-B3 เป็น5%

ปัญหาที่เจอคือ นำมาทาแล้วแสบหน้ามาก
เมื่อผสมแล้ว และได้ลองใช้ มีอาการแสบหน้าทุกครั้งที่ใช้ค่ะ แสบหน้าประมาณ 15 นาทีแล้วค่อยๆทุเลาลงจนหายไป แต่ไม่เกิดอาการสิวขึ้น สงสัยว่าอาการแสบหน้าแบบนี้เกิดจากอะไรหรอคะ หรือผิวเรามันบางมาก

ในวันแรกที่ทดลองใช้ เราทดลองใช้ทั้งBHA(ที่ผสมเอง)ทาลงไปก่อน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วทาครีม(ที่ผสมเอง)เมื่อทาเสร็จประมาณ 2 นาทีก็มีอาการแสบหน้าขึ้นมาทันที ตอนแรกสงสัยว่าเป็นเพราะBHA จึงลองล้างออกแล้วทาครีมที่ผสมเองอีกครั้ง แต่ก็มีอาการแสบเหมือนเดิมค่ะ

บริเวณที่แสบคือ เหนือริมฝีปาก ข้างปีกจมูกทั้งสองข้าง ผิวบริเวณเหนือคาง





ปัญหาต่อมาคือ ผสมตัวการละลายของEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) พอผสมแล้วนำมาทาที่ผิว มันยังมีความเป็นผง ของตัวEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release)อยู่ค่ะ พยามยามคนด้วยมือนานมาก เกือบชั่วโมง ผงของสารตัวนี้ยังเป็นเม็ดอยู่

ขั้นตอนที่ผสมค่ะ
ผสมwater กับ Satin Cream Maker ก่อน คนจนได้เนื้อครีม แล้วค่อยใส่ตัวผง
Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) คนจนผงBHA ละลาย ขั้นตอนสุดท้าย คือใส่ Mild Preserved Eco คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน

เมื่อใช้แล้วยังเป็นเม็ด จึงลองแก้ปัญหาโดยการนำไปอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 25วินาที ไม่กล้าอุ่นนานกลัวสารเสียคุณภาพไปมากกว่านี้ ซึ่งวิธีนี้เราไม่ทราบว่าจะทำให้สารเกิดความเสียหายหรือไม่ เมื่ออุ่นเสร็จก็นำมาคนต่อ หวังว่าผงจะละลายเร็วขึ้น ตัวผงEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) มีการละลายไปบ้างแต่ก็มีส่วนที่เป็นเม็ดหลงเหลืออยู่




รอจนแแห้งก็เป็นคราบขาวๆ ทาแล้วมีเนื้อสัมผัสที่แมท รู้สึกยิบๆในบริเวณที่ทาค่ะ


ตัดสินใจลองใช้ที่ผิวหน้า มีความรู้สึกยิบๆที่ผิวค่ะ ถือว่าเป็นปกติมั้ยคะ ที่มีความรู้สึกนี้ และเกิดความสงสัยว่า จะแก้ปัญหาความเป็นเม็ดของผงEncapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) หลังจากที่ผสมออกมาแล้วอย่างไร และเมื่อนำไปอุ่นด้วยความร้อนทำให้สารเกิดความเสียหายหรือไม่ สามารถนำมาใช้ต่อได้หรือไม่คะ

ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ

มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ ลองใช้BHA(ที่ผสมเองอีกครั้ง)ทาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที กับครีมผสมเอง คราวนี้มันแสบร้อนค่ะ มีอาการแดงบริเวณที่แสบอย่างเห็นได้ชัด แสบเหมือนผิวจะไหม้เลยค่ะ จึงรีบล้างออกแล้วนำ เจลว่านหาง(ที่ผสมเอง)

ส่วนผสมของเจลว่านหาง(ที่ผสมเอง)
เจลว่านหางจระเข้. 92%
Safe-B3. 3%.
Panthenol 3%
Rhanmnose 1%
Mild Preserved Eco 1%

เมื่อทาเจลว่านห่าง อาการแสบร้อนจึงค่อยๆหายไป ประมาณ 15 นาทีต่อมา จึงทดลองนำครีมที่ staff แนะนำสูตร มาใช้อีกครั้งโดยทาทับกับเจลว่านหางจระเข้ ที่ทาก่อนหน้านี้ เราทาครีมในบริเวณหน้าผาก ช่วงแก้ม ช่วงกราม เว้นบริเวณรอบดวงตา ปีกจมูก ผิวเหนือริมฝีปาก ผิวเหนือคางไว้ ทำแบบนี้กลับไม่มีอาการแสบร้อนขึ้นมาเลยค่ะ

อาการแสบร้อน จนผิวแดงเหมือนจะไหม้ เป็นเพราะ BHA รึป่าวคะ ต้องลดปริมาณการใช้ หรือ เกิดจากสูตรมีความผิดพลาดเพราะเรานำไปอุ่นในความร้อนเพื่อหวังว่าผงของ Encapsulated Salicylic Acid (Powder, Timed-Release) จะละลาย