ถามคำถามที่นี่ - เครื่องสำอาง

-ผมอายุ 29 นอนในห้องแอร์ และใช้ยาretin-a ผิวจึงค่อนข้างแห้ง จึงต้องการเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิวจากการใช้ยา และช่วยให้ผิวแข็งแรงในเวลาเดียวกัน
รายการส่วนประกอบที่สวนใจมีดังนี้ครับ

Myristyl Nicotinate 10% ANTI-AGIN

Stearyl Glycyrrhetinate 1% ANTI-IRRITANT
Willow Bark Extract 5% ANTI-IRRITANT,EXFOLIANT
beta glucan 5% ANTI-IRRITANT
Hi-Quercetin® 5% ANTI-IRRITANT

Phospholipid 3% moisturizer
Sea Kelp Extract 5% moisturizer
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™ 5% moisturizer
Inositol 2% moisturizer
Japanese Cedar 1% moisturizer
PolyGlutamic Acid (Low Molecule Weight) 0.5% moisturizer

Satin Cream Maker™ 1%
AnyGel™ 1%
Disodium EDTA 0.2%
Phenoxyethanol SA 1%

คำถามมีดังนี้ครับ
1.เนื่องจากสูตรที่ใช้มีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ 11% ผมมีความกังวลเรื่องความเหนอะหนะ ไม่สบายผิวของสูตร เรียนถามทีมงานครับว่า ผมมีควรใช้ LipidSoft™ หรือ Silicone ชนิดใดๆ เพื่อแก้ปัญหาความเหนอะหนะไม่สบายผิว หรือไม่ครับ และ ถ้าต้องใช้ผมควรใช้ LipidSoft™ หรือ Silicone ชนิดใดๆ ในปริมาณเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม เพื่อจะได้เนื้อเซรั่มที่ไม่เหนะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมไว และแห้งไว ครับ
2.การใช้ Phospholipid ผมเข้าใจว่า นำส่วนผสมละลายน้ำทั้งหมด ละลายในน้ำก่อน แล้วจึงตามด้วย Phospholipid เมื่อละลาย Phospholipid ดีแล้ว จึงผสม Satin Cream Maker™ ละลายลงไปในส่วนผสมน้ำ แล้วจึงจะใส่ ส่วนผสมของน้ำมัน และสารกันเสียเป็นขั้นตอนสุดท้าย ใช่หรือไม่ครับ
3.ในกรณีนี้มีการใช้ AnyGel™ ร่วมด้วย ผมต้องผสม AnyGel™ ในขั้นตอนใดจึงจะถูกต้องครับ

รบกวนทีมงานช่วยให้คำแนะนำในส่วนประกอบต่างๆ ว่ามีความเหมาะสมเพียงพอหรือไม่ ขอบคุณครับ

สวัสดีคะ

สูตรสามารถผสมได้ แต่ทีมงานมีคำแนะนำต่างๆเกี่ยวกับสูตรดังนี้คะ

1. สูตรไม่ได้เหนอะหนะจนเกินไปเพราะน้ำมันในสูตรคะ สำหรับคนผิวแห้ง การใช้น้ำมันประมาณ 10% ของสูตร ถือว่าเป็นระดับที่ไม่มาก นอกจากนี้ ส่วนผสมกลุ่มน้ำมันในสูตรตามที่ท่านสมาชิกแจ้งมา จริงๆแล้ว ไม่ได้มีลักษณะเป็นน้ำมัน เพียงแต่การผสม ให้ผสมเข้ากับส่วนของน้ำมันอื่นๆในสูตร เท่านั้นเองคะ ตามสูตรที่ท่านสมาชิกแจ้งมา หากถ้าจะรู้สึกเหนอะหนะ จะเกิดจากการใช้ Vitamin B5 ที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าเลือกใช้ชนิด ExtraLite ก็ตาม ทีมงานเรียนแนะนำให้ใช้เพียง 3% ก็สามารถคาดหวังผลจาก Vitamin B5 ได้แล้วคะ

2. สูตรมีการใช้ Hi-Quercetin ซึ่งมีสีเข้ม และจะเหมาะกับการใช้เวลากลางคืนเท่านั้น หากท่านสมาชิกใช้สูตรนี้ในกลางวันด้วย แนะนำให้ตัดออกคะ โดยอาจจะพิจารณาเลือกใช้ส่วนผสมกลุ่ม ลดการระคายเคือง ชนิดอื่นๆ แทนคะ

3. สำหรับผิวที่ค่อนข้างแห้ง เนื่องจากการใช้ Retin-A ทีมงานเรียนแนะนำให้เพิ่มส่วนผสมกลุ่มที่สามารถเคลือบผิวได้ดี เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว ซึ่งจะช่วยทำงานร่วมกับ moisturizer ชนิดที่ละลายในน้ำ ตามที่ท่านสมาชิกได้เลือกไว้หลายรายการ ให้สามารถทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และผิวจะสามารถฟื้นความชุ่มชื้นได้เร็วขึ้นคะ อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมกลุ่มที่สามารถเคลือบผิวได้ดีนี้ จะมีลักษณะเป็นน้ำมัน และบางชนิดจะต้องใช้ความร้อนละลายเข้ากับสูตรคะ ตัวอย่างชนิดที่ใช้ความร้อนละลาย เช่น Ezerrawax™ และตัวอย่างชนิดที่ไม่ต้องใช้ความร้อน เช่น Cerasoft™ , Siliwax Lite หรืออาจจะเป็นน้ำมันธรรมชาติที่มีเนื้อหนักนิดนึง เช่น Jojoba Oil เป็นต้นคะ

2.การใช้ Phospholipid ผมเข้าใจว่า นำส่วนผสมละลายน้ำทั้งหมด ละลายในน้ำก่อน แล้วจึงตามด้วย Phospholipid เมื่อละลาย Phospholipid ดีแล้ว จึงผสม Satin Cream Maker™ ละลายลงไปในส่วนผสมน้ำ แล้วจึงจะใส่ ส่วนผสมของน้ำมัน และสารกันเสียเป็นขั้นตอนสุดท้าย ใช่หรือไม่ครับ

ให้ท่านสมาชิก เติมลงในสูตร ในขั้นตอนสุดท้าย ปั่นหรือคนให้เข้ากับสูตรคะ สูตรจะต้องมีทั้งน้ำและน้ำมัน ให้ Phospholipid สามารถเข้ากับสูตรได้ โดยสูตรของท่านสมาชิกยังไม่มีน้ำมันตรงๆคะ หากการใช้ Phospholipid แนะนำให้เพิ่ม Cerasoft™ , Siliwax Lite หรือ Jojoba Oil ลงในสูตร เพื่อให้ Phospholipid สามารถเข้ากับสูตรได้คะ

สารกันเสีย สามารถเติมในขั้นตอนสุดท้ายได้คะ

3.ในกรณีนี้มีการใช้ AnyGel™ ร่วมด้วย ผมต้องผสม AnyGel™ ในขั้นตอนใดจึงจะถูกต้องครับ

AnyGel ให้ผสมเข้ากับน้ำก่อน จะง่ายที่สุดคะ เนื่องจาก หากใช้ความร้อนช่วย จะละลายได้ง่ายขึ้นมาก หากเติมส่วนผสมอื่นๆลงในน้ำแล้ว อาจจะต้องกังวลว่าส่วนผสมบางรายการไม่สามารถทนความร้อนได้ จึงให้ผสม AnyGel กับน้ำบริสุทธิ์ก่อนคะ

คัดลอกคำแนะนำจากหน้าเวปมาให้คะ

คำแนะนำในการใช้ AnyGel (Credit: คุณ beautyxguide) เพื่อให้สามารถละลายเข้ากับน้ำได้ง่าย

1. อุ่นน้ำบริสุทธิ์ให้ร้อน 70-80องศา

2. ค่อยๆโปรย AnyGel ลงในน้ำที่อุ่น และคนหรือปั่นหรือเข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้ว จึงค่อยโปรย AnyGel ลงไปเพิ่ม

3. งดเติม AnyGel ปริมาณมาก ลงในคราวเดียว เนื่องจากจะจับตัวเป็นก้อน และจะละลายยากขึ้น