สวัสดีคะ
1. จากกระทู้ topic8358.html มีข้อความหนึ่งของสตาฟเขียนไว้ว่า "หากต้องการใช้
BHA เพื่อ
ละลายสิวอุดตัน ไม่จำเป็นต้องมีความเป็นกรดสูงคะ โดยปกติ pH ที่ 4-6 ก็สามารถทำงานได้คะ แต่หากต้องการใช้เพื่อ
ผลัดเซลล์ผิว จะต้องมี pH ที่ต่ำ ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพการ
ผลัดเซลล์ผิวที่ดีกว่าคะ" รบกวนช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมครับ เพราะจากความเข้าใจผมของผมคือ "การ
ผลัดเซลล์ผิว" กับ "การ
ละลายสิวอุดตัน" มันคือเรื่องเดียวกัน แต่จากข้อความของสตาฟเขียนแยกกัน การ
ละลายสิวอุดตันมันไม่ได้เป็นผลมาจากการผลัดเซลผิวหรอกหรือครับ
BHA สามารถ
ละลายสิวอุดตันได้ เกิดจากคุณสมบัติ Comedolytic ซึ่งเกิดจาก ลักษณะของสาร
BHA ซึ่งมีลักษณะ Lipophillic (ชอบน้ำมัน) คะ การชอบน้ำมันดังกล่าว ทำให้
BHA สามารถละลายเข้ากับ Comedone หรือ
สิวอุดตัน ซึ่งอุดตันอยู่ที่รูขุมขนได้คะ คุณสมบัติของ Comedolytic ที่เกิดจากธรรมชาติของ
BHA คือ Lipophillic นี้ ไม่ได้มีลักษณะเป็น pH dependent กล่าวคือ การเป็น Lipohillic ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบางช่วงค่า pH คะ
อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพรวม การทำงานของ
BHA ที่สมบูรณ์จริงๆแล้ว คือการช่วย
ผลัดเซลล์ผิวด้วย ซึ่งการช่วย
ผลัดเซลล์ผิวนั้น ทำให้ เกิด
สิวอุดตันได้ยากขึ้น คะ การ
ผลัดเซลล์ผิวนี้ เป็น pH dependent คือ ยิ่ง pH ต่ำ ประสิทธิภาพการผลัดก็ยิ่งดีขึ้น ดังเช่น
AHA ชนิดใดๆ คะ
หากมองไปถึง เทคนิคการสร้างสูตรรักษาสิว การทำสูตร
ละลายสิวอุดตัน โดยควบคุม pH ไม่ให้ต่ำเกินไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยลง อีกทั้งยังคงประสิทธิภาพการ
ละลายสิวอุดตันอยู่ได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพด้านการ
ผลัดเซลล์ผิว(ซึ่งดังที่ได้เรียนด้านบน - มีผลต่อการเกิด
สิวอุดตันด้วยเช่นกัน) ก็จะลดต่ำลงด้วย แต่ลักษณะสูตรเช่นนี้ อาจจะเหมาะกับผิวที่บอบบาง ไม่ต้องการ
ผลัดเซลล์ผิว เพียงแค่ต้องการเน้น
ละลายสิวอุดตันคะ
2.1 จากข้อมูลในเว็บสารทั้ง2 เคลมว่า สามารถช่วยลดความมัน(sebum) บนใบหน้าได้การที่ผมเลือกที่จะใช้ทั้ง2 ถือซ้ำซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ครับ มันเคลมว่าลดsebumได้ แต่ผมยังไม่ได้ศึกษาว่าสารทั้งสองมันใช้กลไกเดียวกันหรือเปล่าในการลดความมัน
ไม่ซ้ำซ้อนคะ สามารถใช้ร่วมกันได้คะ การควบคุมหรือ
ลดความมันผิว ไม่ได้ทำได้ด้วยส่วนผสมเพียงรายการเดียวคะ ต้องมีการใช้
ส่วนผสมลดความมันผิวหลากหลายชนิดร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังต้องใช้อย่างต่อเนื่องด้วย อีกทั้ง ผลดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงแค่ช่วงที่ใช้ส่วนผสมต่างๆช่วย (หรือจนกว่า ระดับของฮอร์โมน จะลดลง , หรือจนกว่า เงื่อนไขอื่นๆเปลี่ยนแปลงไป ตามสาเหตุของความมันส่วนเกินที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ทำให้ผิวไม่ถูกกระตุ้นการสร้างความมันส่วนเกิน)
2.2 สารสกัดจาก
ชาเขียวข้อมูลในเว็บเขียนว่าpHที่เหมาะสมอยู่ในช่วง4-6.5 แต่
BHA ที่เหมาะสมอยู่ในช่วง3-4 แปลว่าถ้าผมจะทำเจล
BHAที่pHอยู่ในช่วง3-4 ก็ไม่ควรใส่สารสกัดจาก
ชาเขียวหรือเปล่าครับ
pH 4 ได้คะ แต่ทีมงานเรียนแนะนำ
ชาเขียว มีสีเข้ม การเป็นสูตรที่ใช้ระหว่างวัน พิจารณาเลือกใช้ส่วนผสมลดความมันอื่นๆ ทดแทน ตัวอย่างเช่น
Zinc PCA,
L-Carnitine,
AcneBee, ฯลฯ ที่เหมาะสำหรับใช้ระหว่างวัน ไม่มีสีมารบกวนคะ