ถามคำถามที่นี่ - เครื่องสำอาง

ต้องการปรับวิตามินซี Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum เป็น 2 สูตรค่ะ (ทดลองสูตร)

*วิตามินซี Natural-C Glycol™ นี้ เหมาะสำหรับขึ้นทะเบียน อ.ย. และจำหน่ายสำเร็จรูปเลย ไม่เหมาะสำหรับการผสมส่วนผสมใดๆเพิ่มเติม เนื่องจากอาจกระทบถึงความเสถียรของวิตามินซีได้ หากต้องการผสมส่วนผสมใดๆเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสอบถามทางทีม R&D ของบริษัทก่อน มิเช่นนั้นบริษัทไม่สามารถรับประกันความเสถียรได้ ยกเว้นการเติมน้ำหอม สามารถเติมได้ทันทีโดยห้ามเกิน 1% และการแต่งสี*

สูตรที่ 1 เป็น serum ต้องการเติมสารกลุ่ม whitening และ anti aging เพิ่ม ปรับ pH ที่ 3.5
Pro-Cysteine 3%
L-Carnosine 3%
Cell-Energy™ Liquid (Adenosine Liposome) 2%
Caffeine 1%
PolyGlutamic Acid (Low Molecule Weight) 0.5%
LipidSoft™ Moist 5%

สูตรที่ 2 เป็น toner ต้องการเติมสารกลุ่ม acne/AHA และ moisture เล็กน้อย ปรับ pH ที่ 3.5
Lactic Acid 5%
GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 4%
Encapsulated Salicylic Acid (BHA) ชนิดเหลว 3%
Double Hyaluron Liquid 3%
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 2%
LipidSoft™ Moist 5%

**สาร active ทุกตัวที่เลือกมาสามารถอยู่ได้ในค่า pH 3.5

เรียนสอบถามค่ะ
1.สามารถเพิ่ม L-ascorbic acid เป็น 20% ได้ไหมค่ะ ถ้าได้ ควรทำละลายแล้วผสมอย่างไร
2.สาร active ที่มีสถานะเป็นผง สามารถผสมลงไปได้ไหมค่ะ ถ้าได้ควรทำละลายแล้วผสมอย่างไร
3.ทั้ง 2 สูตรพยายามเลี่ยง active ที่เป็นน้ำมันหรือต้องละลายด้วยน้ำมัน เพราะต้องใช้ตัว emusifier คงยุ่งยากน่าดู แต่อยากทราบว่าสามารถนำมาผสมได้ไหมค่ะ
4.หรือหากมีสารอื่นหรือข้อแนะนำเพิ่มเติม ช่วยแนะนำด้วยค่ะ เข้าใจว่า Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum นั้นค่อนข้างจำกัดในการผสม active ตัวอื่นเพิ่มเติม แต่ดิฉันต้องการพัฒนาสูตรให้แตกต่าง เพราะจะนำไปต่อยอดค่ะ

ขอขอบคุณ staff ล่วงหน้าค่ะสำหรับคำแนะนำ

ขออนุญาติตอบในส่วนของสูตรที่เห็นว่ามีข้อผิดพลาดนะครับ
สูตรที่1 จะต้องมีสารประสานน้ำ-น้ำมัน(emulsifier)เนื่องจากLipidSoft™ Moist มีลักษณะเป็นน้ำมันครับ
สูตรที่2 Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)ไม่สามารถผสมในสูตรที่มีVitamin Cได้ครับ และ LipidSoft™ Moist มีลักษณะเป็นน้ำมันจะต้องมีตัวประสานครับ

หากข้อมูลมีประโยชน์กรุณาคลิ๊กกดไลค์แทนคำขอบคุณด้วยครับ
ขอบคุณครับ

ถ้าอย่างนั้นขอตัด LipidSoft™ Moist ออกจากทั้ง 2 สูตรค่ะ เพราะตั้งใจใส่เข้าไปแทนน้ำมันเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิวแบบ occlusive cream เนื่องจากส่วนใหญ่เซรั่มวิตามินซี มักจะไม่ได้เรื่องความชุ่มชื้น

วิตามินบี 3 เห็นแจ้งว่าอยู่ได้ใน pH 3 ขึ้นไป ทำไมถึงผสมร่วมกับกลุ่มเซรั่มวิตามินซีไม่ได้ค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ

ดูท่าแล้วทั้ง 2 สูตรค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากอยู่นะ

แต่ยังรอข้อแนะนำจาก staff อยู่นะค่ะ

สวัสดีคะ

วิตามินบี 3 เห็นแจ้งว่าอยู่ได้ใน pH 3 ขึ้นไป ทำไมถึงผสมร่วมกับกลุ่มเซรั่มวิตามินซีไม่ได้ค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ

ขอความกรุณาท่านสมาชิกตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดการใช้ Vitamin C โดยละเอียด จากหน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ Vitamin C ascorbic acid คะ ในรายละเอียดดังกล่าวจะมีแจ้งทั้งเรื่อง Vitamin B3 และข้อจำกัดด้านความเสถียร เมื่ออยู่ในสูตรน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ท่านสมาชิกจะไม่สามารถใช้ ascorbic acid ในทั้ง สูตร 1 และ 2 คะ

ในกรณีที่ท่านสมาชิกประสงค์จะให้มี Vitamin C ในสูตร 1 และ 2 นี้ กรุณาเลือกใช้ Vitamin C ในรูปอื่นๆแทน ascorbic acid เช่น Ethyl Ascorbic acid หรือ AA2G [รวมถึง Perfect-C ซึ่งอยู่ในรูปน้ำมัน หากสามารถเติม cream maker ใดๆในสูตร เพื่อประสานน้ำ-น้ำมันได้คะ]

ดิฉันย้อนกลับไปอ่านคุณสมบัติทั้ง 2 สารไม่ต่ำกว่า 20 รอบแล้ว ไม่พบตรงจุดใดที่ระบุว่า L-ascorbic acid และวิตามินบี 3 ผสมร่วมกันไม่ได้ ทั้งการละลายในน้ำและ pH ที่สารทั้ง 2 สามารถออกฤทธิ์ได้

แต่ถ้าคำตอบของ staff หมายถึงความเสถียรของ L-ascorbic acid ซึ่งต้องทำละลายด้วยน้ำจะทำให้ไม่เสถียรและคุณสมบัติก็จะอ่อนด้อยลงไป ดิฉันก็พอจะทราบมานานแล้วว่าปกติแล้ว L-ascorbic acid หากละลายในน้ำควร Stabilized ด้วยสารบางตัวเช่น Ferulic+e หรือ Glutathione ดังนั้นหากผสม L-ascorbic acid ร่วมกับวิตามินบี 3 ด้วยการใช้น้ำทำละลาย ควร Stabilized L-ascorbic acid ด้วยสารบางตัว แล้วจึงจะสามารถผสมวิตามินบี 3 ร่วมด้วย

แต่จุดหมายคำถามของดิฉันตอนแรกไม่ใช่ L-ascorbic acid ที่จะนำมาทำละลายในน้ำ แต่ต้องการพัฒนาสูตรจาก stabilized vitamin c (Natural-C Glycol™) ซึ่งใช้ glycol เป็นตัว Stabilized เอาไว้อยู่แล้ว มันเสถียรอยู่แล้ว เหตุผลที่ว่าวิตามินบี 3 ผสมร่วมไม่ได้ จึงไม่ใช่เพราะมันไม่เสถียร แต่ควรต้องมีเหตุผลอื่น ซึ่งดิฉันอ่านแล้วไม่เห็นระบุเอาไว้ จึงตั้งคำถาม


แต่ถ้าหากเหตุผลที่วิตามินบี 3 เป็นผงต้องทำละลายด้วยน้ำจึงไม่สามารถผสมลงใน stabilized vitamin c (Natural-C Glycol™) ได้ สารตัวอื่นที่ดิฉันถามไปทั้ง 2 สูตรที่มีคุณสมบัติเป็นผงและต้องทำละลายด้วยน้ำก็ไม่สามารถผสมร่วมกับ stabilized vitamin c (Natural-C Glycol™) ได้ทั้งหมด ดิฉันเข้าใจถูกไหมค่ะ

แต่ staff เลือกตอบเฉพาะ วิตามินบี 3 สารเดียว จึงทำให้ดิฉันสับสน ทั้งๆที่ดิฉันถามไปตั้งหลายตัว

เอาเป็นว่าดิฉันเชื่อ staff ตั้งแต่แรกแล้วค่ะว่า วิตามินบี 3 ผสมร่วมกับ L-ascorbic acid ไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ใน stabilized vitamin c (Natural-C Glycol™) สำเร็จรูปมาแล้ว หรือจะนำมาทำละลายด้วยน้ำแล้ว Stabilized ด้วยสารอื่น แต่ดิฉันย้อนกลับไปอ่านคุณสมบัติทั้ง 3 สารเพื่อหาเหตุผล ก็ไม่เห็นมีระบุเอาไว้ หรือมีตรงจุดใดที่ทั้ง 3 สารมีคุณสมบัติที่ขัดแย้งกันดังนั้นการที่ทั้งวิตามินบี 3 และ L-ascorbic acid ผสมร่วมกันไม่ได้มันจึงควรมีเหตุผลอื่น ซึ่งไม่เห็นระบุเอาไว้ นี่ต่างหากคือคำถาม

ขออภัยหากดิฉันเรียบเรียงคำถามไม่ดี ทำให้ท่านเกิดความสับสน ขอบคุณค่ะ

สวัสดีคะ

ทีมงานขออภัยอย่างสูงคะ

เรียนแจ้งข้อมูลดังนี้คะ

Safe-B3 เมื่อผสมเข้ากับ Vitamin C รูป ascorbic acid มีโอกาสการเกิด "Complexation" หรือการรวมเข้ากันของสาร ซึ่งเมื่อรวมเข้ากันแล้ว บางส่วนจะเกิดขึ้นเป็นสารใหม่ (Niacinamide ascorbate)

ปัจจุบันยังไม่ทราบว่า Niacinamide-ascorbate นี้ มีผลอย่างไรต่อผิว

สำหรับ Vitamin C ในรูปอื่นๆ ทีมงานไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีปัญหากับ Safe-B3 หรือไม่ แต่เรียนแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยง คะ

สำหรับข้อมูลที่อยู่บนหน้าเวป ทีมงานจะแจ้งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องปรับปรุงให้ถูกต้องคะ ขออภัยอีกครั้งคะ