ถามคำถามที่นี่ - เครื่องสำอาง

สวัสดีครับ

Ingredients
1)SPF Protect Ultra 15%
2)Zinc 200nm 5%
3)Dimethicone1secs 5%
4)Dimethicone verylight/5 10%
5)Oil-Fix W 1%
6)SiliSolve Plus 1%
7)Warp Cream Maker XL 15%
8)Mild Preserved 1%
9)Silicone Film medium,wear 5%
10)Magnesium Sulfate 1%
11)Siliperse 0.25%
12)Titanium Dioxide 200nm 1%
13)ส่วนของน้ำ

ขออนุญาตเรียนสอบถามทีมงานดังนี้

1)หากต้องการให้เนื้อสูตรกันแดดเหลวกว่านี้ สามารถเพิ่ม SiliSolve Plus เป็น1.5-2% หรือ Siliperse 0.35% เหมาะสมหรือไม่ครับ หรือ มีวิธีใดบ้าง ที่ทำให้กันแดดมีเนื้อที่เหลวลง แต่ไม่เสี่ยงแยกชั้น

2)ต้องการให้สูตรกันน้ำได้ดียิ่งขึ้น ขั้นสามารถว่ายน้ำได้ การใช้ Silicone Film medium,wear 10% เทียบกับ Silicone Film Long,wear 10% เนื้อสัมผัสจะแตกต่างกันมากไหมครับ?
เพราะในสูตรใช้ Medium,wear5% ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่พึงพอใจแล้ว แต่ยังกันน้ำได้ไม่ดีพอ

3)Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse 1% พบว่าผิวดูขาวแบบไม่เป็นธรรมชาติ การใช้ Titanium Dioxide Pigment 1% เหมาะสมกว่าหรือไม่ครับ ต้องการแค่ผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบธรรมชาติ

ขอบพระคุณมากครับ

เรียนสอบถามทีมงานเพิ่มเติมครับ

4)BB Micro Silk 5% เทียบกับ Polymethylsilsesquioxane 4.5micron 5% ตัวใดที่ทำหน้าที่Soft-Focusได้ดีกว่ากัน? และ ตัวใดให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่ากันเมื่ออยู่บนผิว?

5)WhiteMatte6 1% เมื่อเทียบกับ Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse 1% และ Titanium Dioxide Pigment 1% ตัวใดให้ความเป็นธรรมชาติกว่ากันเมื่ออยู่บนผิว? ต้องการปรับให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

ขอบพระคุณมากครับ

ขออนุญาตเรียนสอบถามทีมงานเพิ่มเติมครับ

6)Melanin Black (Vegetable Black) ที่ทางบริษัทจำหน่าย คือ Liposhield HEV ที่ทางแบรนด์ต่างๆใส่ เพื่อเคลมว่ากัน Visible light ใช่หรือไม่ครับ? แล้วถ้าในสูตรใส่ Beige iron Easymix 1% แล้ว ควรใส่ Melanin Black เริ่มต้นประมาณกี่%ดีครับ?

สวัสดีคะ

สูตรน่าจะลองปรับให้เหลือเพียงเท่านี้ ทีมงานคิดว่าเพียงพอในการประสานแล้วคะ

Ingredients
1)SPF Protect Ultra 15%
2)Zinc 200nm 5%
3)Dimethicone1secs 5%
4)Dimethicone verylight/5 10%
5)Oil-Fix W 1%

7)Warp Cream Maker XL 15%
8)Mild Preserved 1%
9)Silicone Film medium,wear 5%
10)Magnesium Sulfate 1%

12)Titanium Dioxide 200nm 1%
13)ส่วนของน้ำ

เนื่องจาก Warp Cream Maker XL จะสามารถทำหน้าที่ได้เพียงพอแล้วคะ

2)ต้องการให้สูตรกันน้ำได้ดียิ่งขึ้น ขั้นสามารถว่ายน้ำได้ การใช้ Silicone Film medium,wear 10% เทียบกับ Silicone Film Long,wear 10% เนื้อสัมผัสจะแตกต่างกันมากไหมครับ?
เพราะในสูตรใช้ Medium,wear5% ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่พึงพอใจแล้ว แต่ยังกันน้ำได้ไม่ดีพอ

พิจารณาเติม
Silicone Film (Long-Wear, Soft, Isododecane Base) คะ ทดลอง 5% เริ่มต้นคะ

3)Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse 1% พบว่าผิวดูขาวแบบไม่เป็นธรรมชาติ การใช้ Titanium Dioxide Pigment 1% เหมาะสมกว่าหรือไม่ครับ ต้องการแค่ผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบธรรมชาติ

Titanium Dioxide ไม่ว่าชนิดไหน ก็มีลักษณะเป็นสีขาวที่ไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำลองแต่งสีให้ออกโทนสีเนื้อ ด้วย Beige Iron Oxide เพื่อปรับให้เข้ากับโทนผิวมากขึ้น หรืออาจเลือก Titanium Dioxide ชนิดโปร่งแสง เพื่อให้ขาวน้อยลง เช่น Titanium Dioxide Transparent (ชนิดโปร่งแสง, 15nm) คะ

4)BB Micro Silk 5% เทียบกับ Polymethylsilsesquioxane 4.5micron 5% ตัวใดที่ทำหน้าที่Soft-Focusได้ดีกว่ากัน? และ ตัวใดให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติกว่ากันเมื่ออยู่บนผิว?

BB Micro Silk คะ

5)WhiteMatte6 1% เมื่อเทียบกับ Titanium Dioxide 200nm EasyDisperse 1% และ Titanium Dioxide Pigment 1% ตัวใดให้ความเป็นธรรมชาติกว่ากันเมื่ออยู่บนผิว? ต้องการปรับให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

WhiteMatte 6 คะ

6)Melanin Black (Vegetable Black) ที่ทางบริษัทจำหน่าย คือ Liposhield HEV ที่ทางแบรนด์ต่างๆใส่ เพื่อเคลมว่ากัน Visible light ใช่หรือไม่ครับ? แล้วถ้าในสูตรใส่ Beige iron Easymix 1% แล้ว ควรใส่ Melanin Black เริ่มต้นประมาณกี่%ดีครับ?

ไม่มีผลการป้องกัน visible light คะ

กรณีใช้ Titanium Dioxide ที่เป็นขนาดใหญ่ จะสามารถช่วยป้องกัน Visible Light ได้แล้วคะ

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบมากครับ

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพการกันน้ำ(ระดับการกันน้ำ=สามารถดำน้ำได้,ว่ายน้ำได้นาน)


-สูตรที่1-
1)Silicone Film (Long wear,Hard,Isododecane base) 5%
2)Oil-Fix W 2%

-สูตรที่2-
1)Silicone Film (Long wear,Soft,Isododecane base) 10%
2)Oil-Fix W 2%

1)2สูตรข้างต้น ทีมงานคาดว่าสูตรใด ให้ประสิทธิภาพการกันน้ำได้ดีกว่ากัน และ สูตรใดให้เนื้อสัมผัสที่ดีกว่ากัน(เหนียวเหนอะหนะน้อยกว่า)?

2)การใช้Oil-Fix W หรือ Silicone Film ในปริมาณสูง ส่วนผสมตัวใด มีโอกาสทำให้เนื้อสูตรข้นขึ้นเกลี่ยยากขึ้นบนผิวมากกว่ากันครับ?

3)Silicone Film (Long wear,Hard,Isododecane) กับ Silicone Film (Long wear,Hard,Cyclopentasiloxane) มีลักษณะเนื้อแตกต่างกันไหมครับ?

ขอบคุณครับ

สวัสดีคะ

-สูตรที่1-
1)Silicone Film (Long wear,Hard,Isododecane base) 5%
2)Oil-Fix W 2%

-สูตรที่2-
1)Silicone Film (Long wear,Soft,Isododecane base) 10%
2)Oil-Fix W 2%

1)2สูตรข้างต้น ทีมงานคาดว่าสูตรใด ให้ประสิทธิภาพการกันน้ำได้ดีกว่ากัน และ สูตรใดให้เนื้อสัมผัสที่ดีกว่ากัน(เหนียวเหนอะหนะน้อยกว่า)?

Silicone Film ทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะความเหนอะหนะคล้ายกัน คือในช่วงแห้งจะเหนียว แต่เมื่อแห้งแล้วจะลื่น ไม่เหนอะหนะ คะ

ประสิทธิภาพกันน้ำ ที่อัตราเท่ากัน ชนิด Hard จะกันได้ดีกว่า (และหลุดยากกว่า) แต่เนื่องจากใช้ในอัตราไม่เท่ากัน จึงตอบยากคะ

2)การใช้Oil-Fix W หรือ Silicone Film ในปริมาณสูง ส่วนผสมตัวใด มีโอกาสทำให้เนื้อสูตรข้นขึ้นเกลี่ยยากขึ้นบนผิวมากกว่ากันครับ?

ทั้ง 2 ตัว ทำงานต่างกันนะคะ แต่กรณีใช้ในอัตราสูง Oil-Fix W จะส่งผลให้เนื้อสูตรข้นขึ้น ได้มากกว่า Silicone Film ในส่วนการเกลี่ยยาก ทั้ง 2 ตัว กรณีใช้มากไป ทำให้เกลี่ยยากขึ้นได้ทั้งคู่คะ

3)Silicone Film (Long wear,Hard,Isododecane) กับ Silicone Film (Long wear,Hard,Cyclopentasiloxane) มีลักษณะเนื้อแตกต่างกันไหมครับ?

ต่างกันคะ ชนิด Isododecane จะแห้งเร็วกว่า และแห้งได้สนิทกว่า แต่ชนิด Cyclopentasiloxane จะแห้งช้ากว่า และเมื่อแห้งอาจจะไม่ได้แห้งสนิท การใช้งานจึงต่างกัน กรณีสูตร make-up หรือ กันแดด ใช้ Isododecane แต่ถ้าเป็น ครีมทาผิว อยากให้ค้างอยู่บนผิวนานขึ้น เคลือบผิวนานขึ้น เราไม่ได้ต้องการให้เนื้อแห้งกลายเป็นฟิล์มเหมือน make-up จึงเลือกใช้ ชนิด Cyclopentasiloxane คะ