**ใครเข้ามาอ่านก็โปรดใช้วิจารณญาณเอาน้า ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจแต่ทดลองกับตัวเองอยู่พักนึง
สูตรผมมีดังนี้
1. HydroAlgae™ 2%
2. Phospholipid 3%
3. Fucus vesiculosus extract 8%
4. Oat Avenanthramides 5%
5. Niacinamide 6%
6. Acetyl glucosamine 3%
7. Ethyl Ascorbic acid 3%
8. Squalane 20%
9. German Chamomile Extract 1%
10. Tocotrienols 1%
11. Dimethyl Isosorbide 5%
15. 1,3-Propanediol 5%
17. Alaria Esculenta Extract 1%
18. Madecassoside 80% 0.5%
19. Phytosphingosine 1%
20. Tetrahydrocurcuminoids 0.3%
19. Light Lotion Maker 4%
20. Carboxymethyl cellulose 0.5%
21. Phytic Acid 0.2%
22. Mild Preserved 1%
23. o-Cymen-5-ol 0.1%
24. น้ำทั้งหมดจ้าาาาา จนครบ 100%
*** ในสูตรมีวิตามินซี+B3 ซึ่งผมตั้งใจจะทดลองอาการผิวแห้งจากการใช้ชีวิตในห้องแอร์ ผมใช้สำหรับผิวกายโดยเฉพาะ ปัญหาผิวของผมหลักๆคือ แห้งจากการนอนห้องแอร์ จึงเกิดอาการคัน(คันมาก) ผิวแห้งคล้ำ (น่าจะเกิดจากความแห้ง) ไม่ได้ไปพบแพทย์ผิวหนัง ลองผสมสูตรนี้เองล้วนๆคับผมปรับ PH ได้อยู่ที่ 5 โดยประมาณ จากการใช้งานประมาณ 3เดือนกว่าๆ ปริมานที่ผสมครั้งแรก 300 กรัม (ยังเหลือที่ก้นขวดพอสมควร) พบว่า สูตรนี้ทำให้อาการคันลดลงในระดับดี สามารถนอได้สบาย ไม่คันเหมือนช่วงที่ยังไม่ได้ใช้ รอยคล้ำจากแผลที่เคยเกาก็ดีขึ้นคับ ผิวนุ่มขึ้น ผมใช้กับบริเวณก้นและจุดซ่อนเร้น(18+)ซึ่งแว็ก ประมาณ 2-3สัปดาห์ต่อครั้ง แฟนบอกว่าผิวบริเวณนั้นนุ่มและเนียนขึ้นอย่างชัดเจน
ทีมงานเคยให้ข้อมูลว่า วิตามินซีไม่ควรใช้ร่วมกับสูตรที่มี B3 ซึ่งผมเองก็เคยเชื่อแบบนั้น แต่การทดลองนี้มาจากสูตรของ ครีมบางยี่ห้อที่นำวิตามินซี บางฟรอมมาใช้ร่วมกับ B3 แล้วปรับ pH ให้ใกล้เคียงกัน โดยที่ phของวิตตามินซีฟรอมนั้นๆ ต้องใกล้เคียงกับ pH ของ B3
คำถามคือ ระยะเวลา 3 เดือนกว่าๆที่ทดลองใช้สูตรนี้ เห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวในทางที่ดีขึ้น นั่นหมายถึงว่าสูตรยังมีประสิทธิภาพอยู่รึป่าวคับ และเนื้อของสูตรยังมีสีที่คงที่ (มีสีเล็กน้อย จาก tocotrinols) ไม่มีการแยกชั้น ไม่รู้ว่าตกตะกอนรึป่าวเพราะยัังเหลือที่ก้นขวดพอควร เนื้อสูตรผมใช้ CMC ซึ่งทางบริษัทไม่ได้จำหน่าย เป็นสารเพิ่มความหนืด ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่สูตรนี้จะยังมีความคงตัวอยู่คับ รบกวนขอความเห็นเกี่ยวกับสูตรนี้ด้วยคับ