เนื่องจากมีหลายหลากหลายข้อมูลระบุว่า ห้ามใช้ Niacinamide ร่วมกับ วิตามินซี ในสูตรหรือในผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกัน
แต่ถ้าขึ้นสูตรแยกเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ แต่ทาลงผิวทับกัน แบบนี้ทั้ง Niacinamide และ วิตามินซี จะหักล้างกันหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
modtanoy21 เขียน:ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นจากที่เคยได้สอบถามทางทีมงานเกี่ยวกับเรื่องนี้มาค่ะ
- ที่ห้ามใช้ Niacinamide ร่วมกับ วิตามินซี ในสูตรหรือในผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกัน เนื่องจากกลุ่ม Vitamin C ไม่ว่าตัวไหน มันจะสามารถจับตัวกับ Vitamin B3 แล้วเกิดเป็นสารใหม่ ซึ่งทำให้สารเดิมเสื่อมสภาพไปค่ะ และจะทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดสีเหลืองส้มเหมือนสีสนิม ทำให้ไม่กล้านำมาทาหน้าได้ค่ะ และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ในคนที่ผิวบอบบางค่ะ
- แต่ถ้าขึ้นสูตรแยกเป็น 2 ผลิตภัณฑ์ แต่ทาลงผิวช่วงเวลาเดียวกัน ก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องเว้นช่วงการทาทั้ง 2 ตัวให้ห่างกันอย่างน้อย 30 นาทีค่ะ เพื่อให้สารตัวนึงซึมเข้าผิวให้หมดก่อนค่ะ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมเสื่อมสภาพค่ะ หรืออันนึงทาเช้า อันนึงทาก่อนนอน ก็จะดีกว่ามากเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
llerickll เขียน:เรื่องของ Niacinamide เกิดปฏิกิริยา Hydrolysis กลายเป็น Niacin ภายใต้ภาวะ pH เป็นกรด
อ้างอิงจาก Study นี้นะครับ
https://jpharmsci.org/article/S0022-3549(15)33604-2/pdf
เค้าบอกว่าสารละลาย 10% Niacinamide เมื่อให้ความร้อน 120c x 20 นาที ไม่พบ Niacin เกิดขึ้น
อีก setting นึงที่ pH 2 + 90c ใช้เวลา 75 ชั่วโมง จะพบ Niacinamide เปลี่ยนเป็น Niacin ที่ 50%
เมื่อเพิ่มอุณหภูมิทุกๆ 10c จะเพิ่ม reaction rate เป็น 2 เท่า
หากคำนวณย้อนกลับ ที่ pH 2 + อุณหภูมิบ้านเราที่ 30c คาดว่าจะใช้เวลา 4800 ชั่วโมงหรือราวๆ 6 เดือนครึ่งได้ ซึ่งเราน่าจะถูกกรด pH 2 กัดหน้าพังไปเสียก่อน
อีก Study นึง https://pubs.acs.org/doi/abs/10.1021/ac60053a025
เก็บสารละลายไว้ที่ 45c x 6 สัปดาห์ในภาวะกรด (ไม่ระบุ pH) พบ Niacin ไม่เกิน 2%
หากเป็นอุณหภูมิห้องที่ 25c x 6 สัปดาห์ พบ Niacin น้อยกว่า 1%
นอกจากเรื่อง pH แล้ว เรื่องความหนืด (viscosity) ก็มีผลต่อ reaction rate เช่นกัน
ยิ่ง serum หนืดๆ การเปลี่ยนจาก Niacinamide เป็น Niacin ก็ยิ่งช้าลง
ดังนั้นเรื่องสกินแคร์ที่ Niacinamide เปลี่ยนเป็น Niacin แล้วทำให้ flushing หน้าแดง น่าจะพบได้ค่อนข้างน้อยนะครับ
austiname789 เขียน:จากที่ทราบมา เกิดจากการที่วิตามินซีมีพีเอชที่ค่อนข้างเป็นกรดอ่อนๆ เมื่อวิตามินบีสามอยู่ในสภาวะเป็นกรด รวมตัวกับวิตามินซีแล้ว อาจจะทำให้เกิดเป็นสารใหม่ ที่มีชื่อว่า ไนอะซิน ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาใช้ อาจจะให้เกิดอาการแพ้ หรืออื่นๆอันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ว่าหากใช้วิตามินซีที่มีค่าพีเอชเป็นกลางโดยยังออกฤทธิ์ได้ ไม่แน่ใจว่าผสมรวมกันได้หรือไม่
สำหรับการเปลี่ยนสีเป็นสีส้มนั้น เป้นการเปลี่ยนสีจากการเกิดออกซิเดชั่นของวิตามินซีอยุ่แล้วครับ เพราะมีความเสถียรต่ำ มื่อผสมในน้ำ หากพบว่ามีสีส้มนิดหน่อย ก็ยังพอใช้ได้ แต่หากมีสีเข้มเป็นสีน้ำตาล ไม่ควรใช้ครับ
ทั้งนี้รอจนท.มาตอบคำถามอีกครั้งเพื่อความแน่นอนนะครับ