ถามคำถามที่นี่ - เครื่องสำอาง

จากที่ได้อ่านกระทู้นี้

topic7243.html

ทีมงานแนะนำว่าสามารถใช้ Cyclomethicone ละลายน้ำหอมได้ เลยอยากลองทำสูตร shower oil ที่มีเนื้อบางเบาสุดๆแบบนี้ได้มั้ยคับ

1. Oil Soap 25%
2. Cyclomethicone 50%
3. Fractionated Coconut Oil 10%
4. Oil Blender 3.5%
5. Tocopheryl Acetate 0.5%
6. Ethylhexyl Salicylate 1%
7. Fragrance 10%

หืม!!!! เราก็ทำ shower oil ใช้นะ แต่จะบอกว่าไม่เคยมีความคิดที่จะใส่ซิลิโคนใดๆลงในสูตรอ่ะ ซิลิโคนกะ shower oilมันดูแปลกๆนะเราว่า

สูตรเรามี แค่ Oil Soap + shea butter +franctionated Coconut Oil + Tocopheryl Acetate +Oil Blender + lipid soft moist
....เปอร์เซ็นต์ไม่บอกนะ เพราะกลัวบอกไปแล้วเกิดทำออกมาไม่ได้ feelตามที่ชอบก็จะว่าสูตรเราไม่ดีอีก แต่เรื่องบางเบาเราก็บอกไม่ได้อีกอ่ะแหละ เราแค่ทำใช้เอง สิวไม่ขึ้น แถมผิวไม่แห้ง ไม่แพ้ อาการคันๆเวลานอนห้องแอร์ก็ไม่มี และก็บางวันเบื่อๆก็ใช้แทน cleansing oil(จะเลิกใช้อิ cleansing oilและ)กันแดดที่ว่ากันน้ำถึกๆทนๆ.....เหอะๆ ไม่เหลือ !!!ล้างดีสัดๆ บอกเลย อ๋อๆ lipid soft moist อ่ะ มันดีงามตรงที่ มันก็คือ Triglycerides รวมกะ Glycerine อ่ะดี๊ดีต่อผิว แถมเบาและ moist ด้วยน้า ความเห็นส่วนตัว

อ๋อไหนๆก็ไหนๆ กราบขอบคุณทีมงานที่เอา lactic แบบปลอดกลิ่นมาแบ่งขายด้วยคับ (ผมเมลล์ไปครั้งนึงบอกว่าขายที่ละโล)นึกว่าจะมิมมีวาสนาได้ใช้และ ทุกวันนี้ทนใช้ อิ lactic 88%อยู่ เด๋วหมดและจะสั่งนะจ๊ะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม คืออยากลองทำดู 55555

สวัสดีคะ

ขออภัยคะ น่าจะมีความเข้าใจกันผิดคะ

Cyclomethicone เป็นซิลิโคน ไม่สามารถผสมเข้ากับน้ำหอม ในลักษณะละลายเข้ากันจนใส ได้คะ

น้ำมันที่จะสามารถผสมเข้ากับน้ำหอม และใสได้ จะต้องเป็นน้ำมันที่มีขั้ว หรือเป็น solvent (ตัวทำละลาย) โดยตรง เช่น Ethyl Alcohol คะ

1. Oil Soap 25%
2. Cyclomethicone 50%
3. Fractionated Coconut Oil 10%
4. Oil Blender 3.5%
5. Tocopheryl Acetate 0.5%
6. Ethylhexyl Salicylate 1%
7. Fragrance 10%

สูตรนี้ หากท่านสมาชิกต้องการผสม น้ำหอม ในสูตรนี้ ให้ปรับ Fractionated Coconut Oil มาแทนที่ Cyclomethicone ทั้งหมดเลย ก็ได้คะ หากสูตรนี้ใช้ Cyclomethicone จะกลายเป็นสูตรขุ่น ทันทีคะ

Oil Blender ลอง 1.5-2.5% ก่อนคะ อาจจะไม่ต้องใช้ถึง 3.5% ซึ่งราคาค่อนข้างสูง

อัตราการใช้น้ำหอม 10% สูงเกินความเหมาะสมคะ หากต้องการน้ำหอมกลิ่นแรงๆ อาจจะทดลองมี่ 2-3% ก่อนคะ โดยปกติระดับ 2-3% ถือว่าแรงแล้วคะ

สาเหตุที่คิดทำสูตรแบบนี้เพื่อที่จะขาย shower oil ที่มีกลิ่นเดียวกับน้ำหอม โจทย์ที่ตั้งไว้คือ

1. อยากให้สูตรสามารถใส่น้ำหอมได้ปริมาณเยอะ หลังอาบน้ำเสร็จที่ผิวจะมีกลิ่นรองเป็นพื้น เวลาฉีดน้ำหอมลงไปกลิ่นจะได้สนับสนุนกัน

2. อยากให้เนื้อของสูตรเป็น oil เนื้อบางเบามากๆ ระดับเดียวกับ เอสเซนส์น้ำมันบำรุงผิวหน้า

3. เบสน้ำมันไม่อยากให้มีสีและกลิ่นรบกวน เพราะต้องเติมน้ำหอมและสี

รบกวนช่วยตรวจสูตรให้ด้วยคับ

1. Oil Soap 40%
2. LipidSoft Lite 50%
3. Fragrance 5%
4. Oil Blender 2%
5. Tocopheryl Acetate 1%
6. Ethylhexyl Salicylate 1%
7. Rose Petal Water 1% + สีละลายในน้ำ
เล็กน้อย สาเหตุที่เลือกสีละลายในน้ำเพราะสี
ละลายในน้ำมันมีเฉดให้เลือกน้อย ถ้าใส่น้ำแค่
1% สูตรจะใสหรือขุ่นคับ

สวัสดีคะ

เรียนแนะนำดังนี้คะ

สีละลายในน้ำ จะมีปัญหาเรื่องความคงตัวค่อนข้างมาก โดยปกติหากถูกแสงบ่อยๆ สีจะค่อยๆจางลง ซึ่งเป็นข้อจำกัดของสีละลายน้ำ สิ่งที่ช่วยเหลือให้สีมีอายุยาวขึ้นได้ คือสารที่ช่วยกันแสง แต่ต้องเป็นชนิดที่ละลายน้ำ ตัวอย่างเช่น เติม Benzophenone-4 ลงในสูตร ในอัตราประมาณ 0.5% อย่างไรก็ตาม ท่านสมาชิกจะต้องทดสอบในผลิตภัณฑ์จริง (ปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย เช่น บรรจุภัณฑ์ใส หรือทึบ หรือทึบ ก็ช่วยลดปัญหานี้ได้มาก)

ในด้านอื่นไม่มีปัญหาคะ การใช้ Rose Water ในอัตรา 1% อาจจะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร อัตราน้อยเกินไปที่จะทำให้เกิดกลิ่นได้ ใช้น้ำธรรมดา ก็ได้คะ

น้ำในอัตรา 1% ไม่น่าจะทำให้สูตรขุ่นได้คะ หากเกิดปัญหาขุ่น อาจจะปรับสัดส่วนของ Oil Soap ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาคะ