วิเคราะห์เครื่องสำอางค์

สูตนี้ต้องการให้เป็นเนื้อน้ำหรือซีรัม ทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เน้น ต่อต้านริ้วรอย ยกกระชับ และให้ความชุ่มชื้น
คำถาม
1)Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) VS Wrinkle-Lax
- Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) ต้องใช้คู่กับ argerline เท่านั้นหรือป่าวคะ
- ใส่ Wrinkle Lax เพิ่ม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลดริ้วรอยมากขึ้น หรือ ผลลัพท์จะซ้ำๆกับ argerline ไม่มีประโยชน์ มั้ยคะ
2) Sea Kelp Extract VS Wakame Extract
- ถ้าเทียบกันแล้วคุณสมบัติที่มีผลในเรื่องต่อต้านริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น คล้ายๆกัน ใช่มั้ยคะ หรืออันไหนมี Fucoidan มากกว่ากัน ถ้าเหมือนควรเลือกตัวไหนดีคะ หรือควรใส่ทั้ง2ตัว
- อีกตัวหนึ่ง Marine Plankton (Lifting, Tightening จะให้ผลที่คล้ายกับ/ตัวช้างบน ? แล้วตัวนี้คือแพลงตอนเหมือนของ Biotherm ป่าวคะ
3)จากสูตร ควรใส่Laurocapram เพราะ ใส่Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine)
-เลือกถูกมั้ยคะ แล้วต้องใส่ DMI 3% ร่วมด้วยมั้ยคะ
4)จากสูตร
- ต้องใส่ สาร anti irritant อีกมั้ยคะ
- ถ้าเน้น ต่อต้านริ้วรอย ยกระชับ สารที่เป็นกลุ่ม peptide ที่เลือก มันมากและซ้ำกันเกินไป ควรตัดออก หรือเพิ่มตัวไหนหรือป่าวคะ
- สาร active มากและน้ำน้อยไป ไม่เหมาะสมป่าวคะ เนื้อสูตรที่ออกมาจะประมาณไหนคะ


สูตร

Repair Activator 10
Quick-Coll 2
Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) 8
Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) 10
Wrinkle-Lax 0.5
Adenosine Liposome 3
Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) 1
Methylsilanol Mannuronate 6
Pisum Sativum Extract (Pea-Ex™) 5
Ectoin 2
Grape Seed Extract (Proanthocyanidins) 2
Wakame Extract 3
Laurocapram 3
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 2
Moisture
Hyaluronic Acid (Standard Molecule) 0.3
Hyaluronic Acid (Large Molecule) 0.5
HyaCoat™ Skin (Cationic Hyaluronic Acid) 0.2
Hyaluronic Acid (Small Molecule) 0.3
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 3
Panthenol (Pro Vitamin B5) 1
MOIST72™ 1
HydroAlgae 2

น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 34

สวัสดีคะ

สูตรไม่เหมาะสมกับการใช้งานเนื่องจากมีการใช้ส่วนผสม active มากจนเกินไป สูตรควรจะมีสัดส่วนของน้ำไม่น้อยกว่า 50% คะ

1)Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) VS Wrinkle-Lax
- Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) ต้องใช้คู่กับ argerline เท่านั้นหรือป่าวคะ
- ใส่ Wrinkle Lax เพิ่ม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลดริ้วรอยมากขึ้น หรือ ผลลัพท์จะซ้ำๆกับ argerline ไม่มีประโยชน์ มั้ยคะ

ไม่ได้จำเป็นต้องใช้คู่กันคะ

ไม่จำเป็นต้องใช้ Wrinkle Lax แล้วคะ

2) Sea Kelp Extract VS Wakame Extract
- ถ้าเทียบกันแล้วคุณสมบัติที่มีผลในเรื่องต่อต้านริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น คล้ายๆกัน ใช่มั้ยคะ หรืออันไหนมี Fucoidan มากกว่ากัน ถ้าเหมือนควรเลือกตัวไหนดีคะ หรือควรใส่ทั้ง2ตัว

การทำงานคล้ายกัน เลือกตัวใดตัวนึงเพียงพอแล้วคะ

ไม่มีข้อมูลว่าแต่ละชนิดมี Fucoidan มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากผู้ผลิตให้ข้อมูลเพียงว่ามี Fucoidan ขออภัยคะ

- อีกตัวหนึ่ง Marine Plankton (Lifting, Tightening จะให้ผลที่คล้ายกับ/ตัวช้างบน ? แล้วตัวนี้คือแพลงตอนเหมือนของ Biotherm ป่าวคะ

ทีมงานไม่ทราบว่า Biotherm ใช้ชนิดใด ขออภัยคะ

3)จากสูตร ควรใส่Laurocapram เพราะ ใส่Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine)
-เลือกถูกมั้ยคะ แล้วต้องใส่ DMI 3% ร่วมด้วยมั้ยคะ

เลือกเพียงอย่างใดอย่างนึงคะ Laurocapram หรือ Dimethyl Isosorbide (DMI) ก็ได้คะ เพียงอย่างเดียว

4)จากสูตร
- ต้องใส่ สาร anti irritant อีกมั้ยคะ

ส่วนผสมในสูตรไม่ได้มีรายการใด ที่จะระคายเคืองผิว หากท่านสมาชิกต้องการเติม Anti-Irritant ในสูตร จะต้องเพื่อจุดประสงค์ว่า ปัจจุบันผิวมีปัญหาการระคายเคืองอยู่ หากไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว ก็ไม่จำเป็นคะ การบำรุงให้ผิวมีสุขภาพดี ด้วย moisturizer หรือ vitamin หรือองค์ประกอบต่างๆในสูตร จะช่วยให้ผิวแข็งแรง และสามารถป้องกันตัวเองได้อยู่แล้วคะ

ปรับสูตรโดยลด active ingreditents ต่ำกว่า 50% และมีคำถาม
1) ส่วนของ anti aging
สารที่ใส่ไป มีหน้าที่ช่วย anti aging แต่ละด้านช่วยกัน หรือ ซ้ำๆกันควรตัดออกหรือป่าวคะ

2)Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) กับ L-Carnosine คือ ให้ผลเหมือนกัน แต่ N-acetylcarnosine คงตัวกว่า ละลายดีกว่า ซึ่งควรเลือกมากกว่า ใช่มั้ยคะ

3) เนื้อสัมผัสที่ได้จะหนึบเหนียว ฝืดมากมั้ยคะ ถ้าต้องการปรับเนื้อโดย จะใส่ Glycerin Gel หรือ Hydro Gel ใส่ตัวไหนดีคะ และปริมาณ 10 % จะดีมั้ยคะ

4) ถ้าแทนส่วนน้ำทั้งหมดด้วย Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera)จะถือเป็น active ingredients หรือป่าวคะ แล้วเนื้อสัมผัสที่ได้ จะหนึบเหนียวมากมั้ยคะ




Anti aging
Repair Activator 10
Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) 8
Wrinkle-Lax 0.5
Adenosine Liposome 3
Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) 1
L-Carnosine
DMAE (SkinTight MD™) Liquid 3
Ecotine 2
Sea Kelp Extract 3
Laurocapram 3

Moisture
Hyaluronic Acid (Standard Molecule) 0.3
Hyaluronic Acid (Large Molecule) 0.5
HyaCoat™ Skin (Cationic Hyaluronic Acid) 0.2
Hyaluronic Acid (Small Molecule) 0.3
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 3
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™ 3
MOIST72™ 5
HydroAlgae 2

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 2
น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 52

ปรับสูตรจากวันที่โพสต์ 9 มีนาคม ค่ะ
1) โดยเอา DMAE ออก เพราะกลัวระคายเคือง แล้วใส่ Glycosaminoglycans Complex 3% แทน

2) ส่วนของ anti aging
สารที่ใส่ไป มีหน้าที่ช่วย anti aging แต่ละด้านช่วยเสริมให้ antiaging มากขึ้น หรือ ไม่ค่อยเสริมซ้ำๆกันควรตัดออกหรือป่าวคะ แล้วมีตัวไหนที่มีผลวิจัยรับรองว่ามีผลชัดที่สุด แนะนำมั้ยคะ

3)Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) กับ L-Carnosine คือ ให้ผลเหมือนกัน แต่ N-acetylcarnosine คงตัวกว่า ละลายดีกว่า ซึ่งควรเลือกมากกว่า ใช่มั้ยคะ

3) เนื้อสัมผัสที่ได้จะหนึบเหนียว ฝืดมากมั้ยคะ ถ้าต้องการปรับเนื้อโดย จะใส่ Glycerin Gel หรือ Hydro Gel (ให้ความชุ่มชื้นด้วย) ใส่ตัวไหนดีคะ เหมือนเท่าที่อ่าน Hydro Gel ให้สัมผัสที่ดีกว่า และควรใส่ปริมาณเท่าไหร่คะ

4) ถ้าแทนส่วนน้ำทั้งหมดด้วย Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera)จะถือเป็น active ingredients หรือป่าวคะ แล้วเนื้อสัมผัสที่ได้ จะหนึบเหนียวมากมั้ยคะ

4 )Wrinkle-Lax ทำงานเข้ากันได้กับ antiaging ingredients โดยเฉพาะ Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) ดีหรือ พอๆกัน กับ argerline มั้ยคะ (เลี่ยงการใช้ argerline เพราะทำให้ %ingredients สูง ถ้าใส่ 10%)

5) ในส่วน moisture ใช้ครีม Cholesterol/Palmitamide MEA/Ceramide Cream ของ skin recipe อยู่แล้ว ตังนั้น
5.1) ในส่วนของ moisture นี้จำเป็นต้องมีมั้ยคะ โดยเฉพาะingredient ที่ซ้ำกัน ถ้าสมควรมี moisture อยู่ในสูตรด้วย เปลี่ยนเปเหลือแต่ ingredients 5.1.1 หรือ 5.1.2 ให้ความชุ่มชื้นกว่ากลุ่ม Hya มั้ยคะ
5.1.1)
MOIST72™ 3
HydroAlgae 2
Creatine 100 1
็ั5.1.2)
Hydro Gel 10 (??)


5.2) ส่วนของ B3 กับ B5 ก็ซ้ำ แต่่จะมี ส่วนช่วยเสริมการทำงานของ ingredient of antiaging อื่นๆมั้ยคะ


สูตร

Anti aging
Repair Activator 10
Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) 8
Wrinkle-Lax 0.5
Adenosine Liposome 3
Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) 1
Glycosaminoglycans Complex 3
Ecotine 2
Sea Kelp Extract 3
Laurocapram 3

Moisture
Hyaluronic Acid (Standard Molecule) 0.3
Hyaluronic Acid (Large Molecule) 0.5
HyaCoat™ Skin (Cationic Hyaluronic Acid) 0.2
Hyaluronic Acid (Small Molecule) 0.3
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 3
Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™ 3
MOIST72™ 3
HydroAlgae 2
Creatine 100 1
Hydro Gel ?

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 2
น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 54

สวัสดีคะ

2) ส่วนของ anti aging
สารที่ใส่ไป มีหน้าที่ช่วย anti aging แต่ละด้านช่วยเสริมให้ antiaging มากขึ้น หรือ ไม่ค่อยเสริมซ้ำๆกันควรตัดออกหรือป่าวคะ แล้วมีตัวไหนที่มีผลวิจัยรับรองว่ามีผลชัดที่สุด แนะนำมั้ยคะ

เรียนแนะนำท่านสมาชิก พิจารณาส่วนผสมกลุ่ม ผลัดเซลล์ผิว จะช่วยเสริมประสิทธิภาพด้าน anti-aging ได้ดี เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเดิมออกให้เร็วขึ้นคะ เรียนแนะนำกลุ่มที่ไม่ระคายเคืองผิว (ผลัดเซลล์ผิวโดยไม่ระคายเคือง) โดยให้ตัดส่วนผสมบางรายการออกจากสูตรตามคำแนะนำด้านล่างคะ

3)Pure-NAC™ (N-acetylcarnosine) กับ L-Carnosine คือ ให้ผลเหมือนกัน แต่ N-acetylcarnosine คงตัวกว่า ละลายดีกว่า ซึ่งควรเลือกมากกว่า ใช่มั้ยคะ

ปัจจุบัน L-Carnosine ยังมีผลการวิจัยทดสอบ ในด้านการบำรุงผิว มากกว่า N-acetylcarnosine มาก อาจจะด้วยเหตุผล ที่ L-Carnosine มีประวัติการใช้บำรุงผิวมายาวนานกว่า ในขณะที่ N-acetylcarnosine พึ่งมีการเริ่มใช้ไม่นาน โดยแต่ก่อนใช้ในทางการแพทย์เป็นหลัก คะ สำหรับคำแนะนำว่าเลือกชนิดใด แนะนำท่านสมาชิกเลือกอย่างใดอย่างนึงก็ได้ แต่ไม่ใช้ทั้ง 2 อย่างในสูตรคะ ทั้ง 2 ตัว คาดหวังผลได้คะ แต่ระดับผลที่เกิดขึ้น ต้องขึ้นอยู่กับผิวของผู้ใช้ด้วย ทีมงานเองไม่สามารถตอบได้ว่าชนิดใด จะให้ผลได้มากกว่าคะ

3) เนื้อสัมผัสที่ได้จะหนึบเหนียว ฝืดมากมั้ยคะ ถ้าต้องการปรับเนื้อโดย จะใส่ Glycerin Gel หรือ Hydro Gel (ให้ความชุ่มชื้นด้วย) ใส่ตัวไหนดีคะ เหมือนเท่าที่อ่าน Hydro Gel ให้สัมผัสที่ดีกว่า และควรใส่ปริมาณเท่าไหร่คะ

หากท่านสมาชิกกังวลว่า สูตรจะเหนอะหนะผิว หนึบ หรือฝืด ตัวเลือกที่เหมาะสมคือกลุ่ม emollient ตัวอย่างเช่น LipidSoft Dry, LipidSoft Lite หรือ เลือกใช้ silicone เช่น Silicone Gel (Ultra Clear) คะ Glycerin Gel หรือ Hydro Gel จะไม่ได้สามารถปรับผิวสัมผัสของสูตรที่มีองค์ประกอบค่อนข้างมาก ดังสูตรที่ท่านสมาชิกแจ้งคะ

4) ถ้าแทนส่วนน้ำทั้งหมดด้วย Galactomyces Ferment Filtrate (aka. Pitera)จะถือเป็น active ingredients หรือป่าวคะ แล้วเนื้อสัมผัสที่ได้ จะหนึบเหนียวมากมั้ยคะ

สูตรจะเหนอะหนะมากขึ้น แต่ จะเหนอะหนะ"มาก" หรือไม่ ทีมงานไม่สามารถตอบได้ เนื่องจาก คำว่า"มาก" หรือ "น้อย" ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละท่าน ทีมงานจึงเรียนแนะนำท่านสมาชิกลองผสมแล้วค่อยปรับสูตรจากนั้นคะ (ในกรณีที่ปรับสูตรไม่ได้และพบว่าเหนอะหนะมาก ก็สามารถนำไปใช้เป็นสูตรกลางคืนได้คะ) เพราะหากยังไม่ลองเริ่มต้นดู จะตอบได้ยาก ว่าระดับใดเหมาะกับผิวหน้าหรือความรู้สึกหรือความชอบ ของท่านสมาชิก

4 )Wrinkle-Lax ทำงานเข้ากันได้กับ antiaging ingredients โดยเฉพาะ Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) ดีหรือ พอๆกัน กับ argerline มั้ยคะ (เลี่ยงการใช้ argerline เพราะทำให้ %ingredients สูง ถ้าใส่ 10%)

สามารถใช้ร่วมกันได้คะ หากประสงค์จะใช้ Argireline ร่วมด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้ในอัตราสูงคะ ทดลองใช้ในอัตราต่ำ 3% ก่อนคะ

5) ในส่วน moisture ใช้ครีม Cholesterol/Palmitamide MEA/Ceramide Cream ของ skin recipe อยู่แล้ว ตังนั้น
5.1) ในส่วนของ moisture นี้จำเป็นต้องมีมั้ยคะ โดยเฉพาะingredient ที่ซ้ำกัน ถ้าสมควรมี moisture อยู่ในสูตรด้วย เปลี่ยนเปเหลือแต่ ingredients 5.1.1 หรือ 5.1.2 ให้ความชุ่มชื้นกว่ากลุ่ม Hya มั้ยคะ
5.1.1)
MOIST72™ 3
HydroAlgae 2
Creatine 100 1
็ั5.1.2)
Hydro Gel 10 (??)

แนะนำท่านสมาชิก ให้ตัดส่วนผสมกลุ่ม moisturizer ออกจากสูตรนี้ทั้งหมดคะ เนื่องจากมีการใช้ moisturizer สูตรที่กล่าวถึงอยู่แล้ว ซึ่งเพียงพอแล้ว ให้ปรับสูตรนี้ ให้เน้น anti-aging อย่างเดียวพอคะ

5.2) ส่วนของ B3 กับ B5 ก็ซ้ำ แต่่จะมี ส่วนช่วยเสริมการทำงานของ ingredient of antiaging อื่นๆมั้ยคะ

หากใช้ในช่วงเวลาต่อเนื่องกัน แนะนำให้ตัดส่วนผสมที่ซ้ำกัน ออกจากสูตรเลยคะ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ซ้ำกัน 2 สูตร ที่ใช้ในเวลาต่อเนื่องกันคะ

ปรับสุตรตามคำแนะนำ โดยเลือก Yeast Resurface เป็นตัวผลัดเซลผิว
1) มีต้องปรับปรุงหหรือเพิ่มสารเพื่อให้สารซึมเข้าสูุ่ผิว อีกมั้ยคะ
2) สูตรโดยรวมเข้ากันได้ใช่มั้ยคะ มีอะไรต้องปรับอีกมั้ยคะ
3) ถ้าตัด moistur ออก แล้วเหลือactive ingredient 38% เนื้อสัมผัส จะเหนอะ หรือฝืดมั้นคะ


Anti aging
Repair Activator 10
Pal-GHK, Pal-GQPR (Matrixyl 3000) 8
Wrinkle-Lax 0.5
Adenosine Liposome 3
L-Carnosine 1
Glycosaminoglycans Complex 3
Ectoin 2
Sea Kelp Extract 3
Laurocapram 3
Yeast Resurface 3
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 2
น้ำกลั่น ปราศจากเชื้อ 62

สวัสดีคะ

สูตรเหมาะสมแล้ว และสามารถผสมเข้ากันได้คะ

ในเรื่องความเหนอะหนะ ท่านสมาชิกจะต้องลองทดสอบคะ ทีมงานไม่สามารถตอบได้คะ เนื่องจากเป็นเรื่องความรู้สึกผิวของแต่ละท่านคะ